byCryptodrilling TeamSeptember 26, 2023
เครื่องขุดบิทคอยน์ระบายความร้อนอย่างไรบ้าง (Air VS Hydro VS Immersion Cooling method)
การควบคุมความร้อน หรือ ระบบระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์สำคัญอย่างไร มีกี่ประเภท สามารถเพิ่มกำไรให้การขุดบิทคอยน์ได้อย่างไร เราจะพามาดูวิธีที่คุณสามารถสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้คืนทุนไวและได้กำไรจากเครื่องขุดบิทคอยน์ของคุณ

เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้งานเครื่องขุดบิทคอยน์หรือเครื่องขุดคริปโตประเภท ASICs เป็นหลัก เราจึงขอนำเสนอข้อมูลการระบายความร้อนของเครื่องขุดดังกล่าวเพียงอย่างเดียวในบทความนี้ หากท่านต้องการหาอ่านเพิ่มเติมว่าในตลาดมีเครื่องขุดชนิดใดบ้าง และเครื่องขุดบิทคอยน์คืออะไร

ระบบระบายความร้อนในการขุดบิทคอยน์

ในบทความนี้ เราจะสำรวจและสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์ที่ใช้ระบบลมและน้ำในการลดความร้อน ซึ่งสามารถใช้หลักการเดียวกันไม่ว่าท่านกำลังขุดเครื่องขุดบิทคอยน์ชนิดใด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มกำไร

ความสำคัญของระบบระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์

เหมืองขุดบิทคอยน์ โดยเฉพาะเครื่องขุดบิทคอยน์ประเภท ASICs ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาเข้ารหัสที่ซับซ้อนและรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม พลังงานการคำนวณนี้มีค่าใช้จ่าย นั่นคือค่าไฟฟ้า การสร้างความร้อนปริมาณมากจากการทำงาน เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เครื่องขุดบิทคอยน์เหล่านี้กินไฟมากหรือน้อยลงโดยตรง การระบายความร้อนอย่างเหมาะสมในเหมือง จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

การระบายความร้อนที่ไม่เพียงพออาจส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้นภายในพื้นที่ขุด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการดำเนินงานของเหมืองขุด อุณหภูมิสูงอาจทำให้อุปกรณ์เกิดความร้อนมากเกินไป ทำให้การประมวลผลลดลงและอาจทำให้เสียหายอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น การระบายความร้อนที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจเสี่ยงต่อความเสี่ยงของการเสียหายในอุปกรณ์และเวลาอยู่ในโหมดที่ไม่ทำงาน อาจลุกลามไปถึงอาการลัดวงจรของไฟฟ้าเนื่องจากฉนวนของสายไฟเสียสภาพ การระบายอากาศที่ดีจึงส่งผลไปถึงความปลอดภัยของอุปกรณ์และทรัพย์สินด้วย

เพิ่มกำไร ลดระยะเวลาคืนทุน ได้อย่างไร

เครื่องขุดบิทคอยน์สร้างความร้อนปริมาณมากและความร้อนนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขุด และกำไรจากการรันเครื่องขุดของคุณโดยตรง ความร้อนนี้เป็นผลของการคำนวณที่ใช้พลังงานอย่างมหาศาลสำหรับการขุด แม้ว่าเราจะหลีกเลี่ยงความร้อนไม่ได้ แต่เราสามารถบริหารความร้อนและใช้มันเป็นตัวแปรสำคัญในการลดต้นทุนในการขุดได้

ความร้อน VS ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ขุด

ความสัมพันธ์ระหว่างความร้อนและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ขุดมีความเชื่อมโยงโดยตรง หากอุปกรณ์ขุดร้อนเกินไป สามารถทำให้เกิดปัญหาหลายประการได้:

  • ลดประสิทธิภาพ: ความร้อนมากเกินไปสามารถทำให้อุปกรณ์ขุดมีประสิทธิภาพโดยรวมลดลง ซึ่งเปลี่ยนเป็นรางวัลขุดเหรียญที่ต่ำลง
  • อายุการใช้งานสั้น: การแสดงผลต่อเวลาที่ให้อุปกรณ์ขุดทนความร้อนสูงสามารถลดลงอย่างมาก ซึ่งต้องการการซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูง
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น: หากเครื่องขุดร้อน ฮาร์ดแวร์จะทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ได้แรงขุดเท่าเดิม ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
    *สิ่งนี้สำคัญอย่างมาก จากประสบการณ์บริหารจัดการเหมืองขุดบิทคอยน์ ทีม Cryptodrilling พบว่า เครื่องขุดที่ไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ดีพอ ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้น ; เพียง 5 องศา ส่งผลให้มีการกินไฟ หรือใช้ไฟฟ้ามากกว่าเดิมสูงถึงเกือบ 10%

ปัจจัยที่มีผลต่อระบบระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์

สิ่งสำคัญสำหรับการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

แหล่งกำเนิดความร้อน: เครื่องมือขุดเป็นแหล่งกำเนิดความร้อนหลักในเหมืองขุดบิทคอยน์ ASICs และ GPU สร้างความร้อนระหว่างกระบวนการขุด และความร้อนนี้ต้องถูกเอาออกอย่างเหมาะสม ทิศทางของความร้อนอยู่ด้านใดของห้อง และมีปริมาณเท่าไหร่ เป็นข้อมูลที่ผู้ขุดควรทราบก่อนเริ่มดำเนินการ

สภาพแวดล้อมของห้อง: ปัจจัยเช่นอุณหภูมิห้อง สถานที่ตั้งโรงเรื่อนอยู่กลางแดด หรืออยู่ในพื้นที่ร่ม และความชื้นมีมากน้อยเพียงใด โรงงานขุดบิทคอยน์ควรตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นต่ำ เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์มีความไวต่อความชื้นและฝุ่นมากพอๆกับความร้อน

ปัจจัยภายนอก: ปัจจัยภายนอกเช่นสภาพอากาศและมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม สามารถมีผลต่อการระบายอากาศ ความถี่ของฤดูฝน อากาศภายนอกอาคาร แมลง และฝุ่นต่างๆเป็นต้น

ในบทความนี้เราจะอธิบายถึงหัวข้อต่างๆดังนี้

  • ประเภทของการระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์มีอะไรบ้าง
    -การระบายความร้อนด้วยลม (Air Cooling)
    -การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบไม่สัมผัสกับบอร์ด (Water/ Hydro Cooling)
    -การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม (Immersion Cooling)
  • ข้อดี-ข้อเสีย ของการระบายความร้อนแต่ละประเภท
  • เคล็ดลับในการเลือกและติดตั้งการระบายความร้อนแบบต่างๆ
  • การใช้งานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง
  • ปัญหาที่พบบ่อย
  • วิธีแก้ไขปัญหา

ประเภทของการระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์มีอะไรบ้าง

เครื่องขุดบิทคอยน์ผลิตความร้อนออกมาสูง การระบายความร้อนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งการถ่ายความเย็นเข้าและถ่ายความร้อนออก โดยในบทความนี้เราจะเรียกทั้งสองอย่างรวมกันว่าการระบายความร้อน สามารถแบ่งการระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์ออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆนั่นคือ

1. การระบายความร้อนด้วยลม (Air Cooling)

ระบบระบายความร้อนด้วยลมใช้ พัดลมในการระบาย ตามปกติแล้วเครื่องขุดเมื่อทำงาน บอร์ดจะร้อน (อาจสูงถึง 9X องศา ในประเทศไทย) เมื่ออุปกรณ์ขุดร้อน ฮีตซิงค์หรือแผ่นระบายความร้อนที่ติดกับฮาร์ดแวร์จะดูดความร้อนและถ่ายความร้อนมันให้กับอากาศ โดยใช้พัดลมของเครื่องขุดเป่าลมเย็นเข้าเครื่องพร้อมดูดออก อากาศที่ร้อนขึ้นจากเครื่องขุดนั้นจะถูกขับออกจากเครื่องขุดเพื่อรักษาอุณหภูมิการทำงานที่คงที่ การระบายความร้อนด้วยลมเป็นหนึ่งในวิธีที่พบบ่อยที่สุด ต้นทุนถูกที่สุด ในการขุดบิทคอยน์

การจัดการการไหลเวียนอากาศพื้นฐาน

การจัดการการไหลอากาศอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งหลักในการระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์ เพื่อให้ได้รับการระบายอากาศที่เหมาะสม สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ

การจัดตำแหน่งอุปกรณ์: จัดวางเครื่องขุดอย่างเหมาะสมในแถวที่มีระยะห่างพอเพียงเพื่อให้เกิดการไหลอากาศระหว่าลมเย็น และลมร้อน ซึ่งช่วยป้องกันความร้อนและช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรมีระยะห่างจากผนังจนถึงเครื่องขุดบิทคอยน์มากพอให้ลมร้อนที่ออกจากเครื่องขุดไม่สะท้อนกลับเข้ามาโดนเครื่อง

ตัวอย่าง เครื่อง Antminer S19 มีความเร็วลมขาออกจากพัดลม 6000RPM รอบสูง ควรติดตั้งให้ห่างจากผนังมากพอที่ลมร้อนจะไม่ย้อนมาโดนตัวเครื่อง เช่น 2-3 เมตร หากไม่มีพัดลมฟาร์มช่วยดึงลมร้อนออกจากพื้นที่

ระบบนำอากาศเข้าและระบบระบายอากาศ: สามารถใช้พัดลมนำอากาศเข้าเพื่อดูดอากาศเย็นจากภายนอกโรงงานและพัดลมระบายความร้อนเพื่อขับอากาศร้อนออก การจัดตำแหน่งพัดลมอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการไหลอากาศที่เป็นประสิทธิภาพ สเปคที่สำคัญในการออกแบบจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป

ความดันบวก: หากสามารถทำได้ ควรรักษาความดันอากาศบวกในเหมืองหรือพื้นที่ อย่างน้อยด้านลมเข้าเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและให้การไหลอากาศสะอาดผ่านเครื่องขุด

ข้อดีของการควบคุมความร้อนด้วยลม:

  • มีราคาไม่แพง: ระบบควบคุมความร้อนด้วยลมมักจะมีราคาไม่แพงเมื่อติดตั้งเปรียบกับโซลูชันการควบคุมความร้อนด้วยน้ำ
  • ง่ายต่อการบำรุงรักษา: มันง่ายต่อการบำรุงรักษาและทำความสะอาดโดยช่วยในการป้องกันการสะสามของฝุ่นที่สามารถขัดขวางการไหลของอากาศ

ข้อเสียของการควบคุมความร้อนด้วยลม:

  • ระบายความร้อนได้จำกัด: ระบบระบายความร้อนด้วยลมมีข้อจำกัดในความจุในการควบคุมความร้อน ทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งที่มีเครื่องขุดร้อนเนื่องจากเกิดข้อจำกัดจาก Thermal Paste หรือน้ำยาระบายความร้อนใต้ ฮีตซิงค์ หากใช้ Thermal Paste คุณภาพไม่ดีด้วย ยิ่งทำให้การระบายความร้อนมีจำกัด
  • เสียงดัง: แม้จะเงียบกว่าบางทางเลือก ระบบควบคุมความร้อนด้วยลมยังสามารถสร้างเสียงเงียบ

เคล็ดลับสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของการควบคุมความร้อนด้วยลม:

  • ให้เหมืองมีการระบายอากาศที่เหมาะสมในพื้นที่ขุดขุดของคุณ
  • ทำความสะอาดตัวกรองฝุ่นและพัดลมอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาการไหลของอากาศ
  • ทำความสะอาดบอร์ดขุด เป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นที่เกาะบริเวณฮีตซิงค์ หากต้องการเริ่มทำด้วหยตัวเองสามารถหาอ่านได้ที่ วิธีการดูแลเครื่องขุดบิทคอยน์ด้วยตัวเอง
  • ควรมีอะไหล่เป็นพัดลมตรงรุ่นเพื่อใช้เปลี่ยนเมื่อพัดลมเสีย เนื่องจากพัดลมสำหรับ ASIC มีมากมายในตลาด การเลือกยี่ห้อเดียวกัน Amp เท่ากัน RPM เท่ากัน อาจไม่ได้แปลว่าสามารถใช้ทดแทนกันได้ เนื่องจากมีทั้งของแท้ ของเทียบ ของผลิตจากคนละโรงงาน แนะนำให้ซื้อจำนวนน้อยๆมาเปลี่ยนดูก่อน หากใช้งานได้ จึงซื้อสต็อกเก็บไว้เป็นอะไหล่ต่อไป

เนื่องจากการระบายความร้อนด้วยลม หรือเรียกว่า การระบายความร้อนด้วยการระบายอากาศ เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุดในไทยในปัจจุบัน จึงขออํิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของการระบายอากาศในเหมืองที่มีใช้กันอยู่หลายประเภท โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรา

ระบายอากาศด้วยอากาศอุณหภูมิห้อง VS ระบบระบายอากาศด้วยความเย็น

วิธีการระบายอากาศที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ใช้หลักการเดียวกันในด้านลมร้อนขาออก คือใช้การระบายหรือดูดออกด้วยพัดลม จะแตกต่างกันที่ลมเย็นขาเข้าเครื่องยกตัวอย่างประเภทที่นิยมใช้ทั่วไปคือ

  1. ระบายอากาศร้อนออกอย่างเดียว ด้านลมเข้าเป็นฟิลเตอร์หรือมุ้งลวด ใช้ลมดูดออกช่วยดึงลมเย็นเข้าห้องขุด
  2. ระบายอากาศร้อนออก ดูดอากาศอุณหภูมิห้องเข้าในห้องด้วยพัดลมเป่า
  3. ระบายอาการร้อนออก และเติมอากาศเย็นเข้า ลดอุณหภูมิด้วย Cooling Pad หรือ แผ่นรังผึ้ง
  4. ระบายอาการร้อนออก และเติมอากาศเย็นเข้า ใช้ระบบลดความเย็๋นด้วย Chiller หรือเครื่องปรับอากาศ

อุณหภูมิห้อง VS คูลลิ่งแพ็ดรังผึ้ง VS แอร์หรือชิลเลอร์
เอาลมเย็นจากไหนดี?

เรามาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภทกัน ใช้หลักการอะไรในการตัดสินใจเลือกใช้ที่เหมืองของเรา
หรือหากเลือกแล้ว ต้องบำรุงรักษาหรือเข้าใจข้อจำกัดอย่างไร

1.1 การระบายอากาศอุณหภูมิห้อง:

อาจหมายถึงข้อ 1 หรือ 2 คือจะมีพัดลมช่วยเป่าลมอุณหภูมิห้องเข้าหรือไม่ก็ได้

ข้อดี:

  1. ความง่าย: การระบายอากาศอุณหภูมิห้องเป็นที่รู้จักในเรื่องความง่ายในการออกแบบและความง่ายในการดำเนินการ ไม่ต้องการอุปกรณ์ที่ซับซ้อนใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายเหมืองขุดบิทคอยน์ รวมถึงเหมืองขุดขนาดเล็กและขนาดกลาง
  2. ความคุ้มค่า: ในทางด้านการลงทุนเริ่มต้น การระบายอากาศอุณหภูมิห้องที่มีความคุ้มค่ามากกว่าวิธีอื่นๆที่ต้องทำความเย็นก่อน เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ขุดบิทคอยน์ที่มีงบประมาณจำกัด หรือเพิ่งเริ่มขุดบิทคอยน์
  3. ประสิทธิภาพในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น: ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นโดยธรรมชาติหรือในฤดูหนาว การระบายอากาศอุณหภูมิห้องอาจมีประสิทธิภาพมากเพียงพอ โดยไม่ต้องเสียเงินลงทุนอะไรเพิ่มเติม
  4. การบำรุงรักษา: ความต้องการการบำรุงรักษาสำหรับการระบายอากาศอุณหภูมิห้องไม่มีความซับซ้อน การล้างตัวกรองและพัดลมเป็นประจำ ตรวจเช็คสายพานของพัดลมที่ดูดลมเข้าและออกแค่นั้นก็เพียงพอต่อการบำรุงรักษาแล้ว

ข้อเสีย:

  1. ประสิทธิภาพที่จำกัดในสภาวะอากาศร้อน: การระบายอากาศอุณหภูมิห้องมีข้อจำกัดในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนหรือในช่วงฤดูร้อนเมื่ออุณหภูมิภายนอกสูงเกิน 35 องศา
  2. การใช้พลังงานมากขึ้น: ในสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น การระบายอากาศอุณหภูมิห้องอาจต้องการความเร็วพัดลมที่สูงขึ้นและการใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการระบายความเย็นที่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
  3. ความผันผวนตามฤดูกาล: ประสิทธิภาพของขึ้นอยู่กับอุณหภูมิตามฤดูกาล ต้องมีการปรับแต่งต่างๆหากอุณหภูมิมีความผันผวน

1.2 การระบายอากาศด้วยคูลลิ่งแพ็ดรังผึ้ง

ใช้เพื่อลดอุณหภูมิลมขาเข้าเครื่องขุด โดยใช้น้ำไหลลงมาผ่านแผ่นรังผึ้ง น้ำจะลดอุณหภูมิลมที่ผ่านแผ่นรังผึ้งก่อนนำลมที่ลดอุณหภูมิแล้วนั้นไปเป่าเข้าเครื่องขุดบิทคอยน์เพื่อลดอุณหภูมิเครื่องต่อไป

ข้อดี:

  1. ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น: การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผึ้งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องสำหรับประสิทธิภาพการระบายความเย็นสูง แม้ในสภาวะอากาศร้อน มันสามารถรักษาอุณหภูมิในเหมืองขุดบิทคอยน์ได้อย่างเหมาะสม น้ำสามารถลดอุณหภูมิได้มากถึง 5-10 องศา ลดความเสี่ยงจากความร้อนสะสมช่วงหน้าร้อน
  2. ประหยัดพลังงาน: เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศเช่นแอร์หรือชิลเลอร์ทั่วไป การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผี้งใช้พลังงานน้อยกว่ามาก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานระยะยาวลดลง
  3. ดีต่อสิ่งแวดล้อม: การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผึ้งซึ้งทำจากกระดาษเป็นที่นิยมในมุมการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน เนื่องจากไม่ได้มีการใช้น้ำยาเคมีหรือสารสังเคราะห์ในการใช้งานใดๆ มีเพียงน้ำ และแผ่นรังผี้่งกระดาษแข็ง เมื่อต้องการเปลี่ยนแผ่นรังผี้งทิ้ง กระดาษแข็งก็สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติอีกด้วย
  4. ประโยชน์ระยะยาว: แม้ค่าลงทุนเริ่มต้นอาจสูงขึ้นกว่าการใช้เพียงพัดลม แต่การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผึ้งก็สามารถประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพในระยะยาวในด้านค่าไฟได้ดี

ข้อเสีย:

  1. ค่าลงทุนเริ่มต้นสูงกว่าแบบลมอย่างเดียว : อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงขึ้นเนื่องจากต้องติดตั้งปั๊มน้ำ และทำรางน้ำรวมถึงระบบหมุนเวียนน้ำ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอาจมีค่าน้ำ และค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์เช่น เปลี่ยนปั๊ม เปลี่ยนแผ่นรังผึ้งต่างๆเข้ามาเพิ่ม
  2. ความซับซ้อนในการบำรุงรักษา : การบำรุงรักษาระบบแผ่นรังผึ้งอาจซับซ้อนมากกว่าการระบายอากาศแบบปกติ ต้องใส่ใจกับคุณภาพของน้ำ การทำงานของปั๊ม และการบำรุงรักษาแผ่นรังผึ้งเป็นระยะ รวมถึงการทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นตามรอบอายุการใช้งาน
  3. ความชื้นที่เกิดขึ้น : หากมีการติดตั้งแผ่นรังผึ้งด้านลมเข้า ต้องระมัดระวังความชื้นที่จะเข้าไปกับลมเย็น ที่สามารถทำให้เครื่องขุดสัมผัสโดนความชื้นได้ ควรเว้นระยะจากผนังด้านที่มีแผ่นรังผึ้งให้ห่างจากทางดูดของเครื่องขุดมากพอ เช่น 3-4เมตร
  4. ความเชียวชาญในการใช้งาน : การปรับจูนปริมาณน้ำมีผลต่อการกระเด็นของน้ำออกจากแผ่นหรือการปรับปต่งเพื่อให้แผ่นรังผึ้งมีน้ำไหลสม่ำเสมอ อาจต้องใช้ความสามารถช่างหน้าเหมืองที่สามารถปรับและเข้าใจหลักการนี้ได้

1.3 การระบายอากาศด้วยระบบปรับอากาศ

ใช้เพื่อลดอุณหภูมิลมขาเข้าเครื่องขุด โดนใช้แอร์ หรือชิลเลอร์ ในการจ่ายลมเย็นเข้าด้านขาเข้าของเหมือง

ข้อดี:

  1. ประสิทธิภาพสูงสุด: ในประสิทธิภาพการผลิตความเย็น แน่นอนว่าเครื่องปรับอากาศหรือ Chiller ในอุตสาหกรรมสามารถทความเย็นได้สูงที่สุด ส่งผลให้เครื่องขุดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจาก เครื่องสามารถลดความร้อนได้ไว
  2. ความเย็นสม่ำเสมอ: เมื่อเทียบกับการระบายอากาศด้วยแผ่นรังผี้งระบบนี้สามารถกำหนดความสม่ำเสมอของอุณหภูมิได้ดีกว่ามากทำให้ได้ความสม่ำเสมอของแรงขุดไม่ว่าสภาวะภายนอกจะเป็นอย่างไร
  3. ความชื้นต่ำและสม่ำเสมอ: เทียบกับการใช้แผ่นรังผึ้ง ระบบแอร์หรือ Chiller เป็นระบบที่อากาศเย็นไม่สัมผัสกับน้ำที่ลดอุณหภูมิโดยตรง ถึงแม้จะมีความชื้นอยู่บ้าง แต่ถือว่าน้อยกวง่าระบบรังผึ้งหรือ ระบบอุณหภูมิห้องที่อยู่ใกล้ชายฝั่งอย่างมาก และความชื้นที่เกิดขึ้น ค่อนข้างสม่ำเสมอและควบคุมได้

ข้อเสีย:

  1. ค่าลงทุนเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงสุด : ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงเนื่องจากต้องลงทุนในอุปกรณ์และระบบท่อต่างๆที่ต่อเข้ามา อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงที่สุด เนื่องจากต้องใช้ไฟฟ้าในการรันเครื่องปรับอากาศหรือ Chiller ด้วย
  2. ความซับซ้อนในการบำรุงรักษา : ต้องมีการบำรุงรักษาเหมือนบำรุงรักษาแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศอุตสาหกรรมเป็นประจำ
การระบายความร้อนด้วยพัดลม

ตรวจสอบและควบคุมระบบระบายอากาศอย่างไร

การตรวจสอบและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในเหมืองขุดบิทคอยน์ ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง

  • เครื่องมือตรวจสอบอุณหภูมิ: ใช้เครื่องมือตรวจสอบอุณหภูมิและเซ็นเซอร์เพื่อติดตามอุณหภูมิในพื้นที่ต่าง ๆ ของเหมืองขุดบิทคอยน์ อาจใช้ Thermal Image Camera หรือวัดปริมาณการกินไฟที่มากขึ้น หากพบความร้อนสูงขึ้น
  • การตรวจสอบระยะไกล: ติดตั้งระบบตรวจสอบระยะไกลเพื่อเข้าถึงข้อมูลอุณหภูมิแบบเรียลไทม์และทำการปรับแต่งตามค่าอุณหภูมิที่จำเป็นทางไกล
  • การควบคุมอุณหภูมิโดยตั้งค่าล่วงหน้า: การใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติที่ปรับความเร็วของพัดลมและวิธีการระบายความร้อนตามค่าอุณหภูมิที่กำหนดล่วงหน้าหากทราบอยู่แล้วว่าฤดูกาลเป็นอย่างไร

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ข้อควรระวัง และสิ่งสำคัญในการออกแบบการระบายความร้อนด้วยลมของเหมืองขุดบิทคอยน์

เพื่อให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่ควรคำนีงมีดังนี้

  • พื้นที่ไม่เพียงพอ: การไม่ออกแบบพื้นที่ให้เพียงพออาจสร้างข้อจำกัดในการไหลของอากาศและทำให้เกิดความร้อน หรือปัญหาด้านความชื้นโดยเครื่องขุดโดยตรงเนื่องจากการวางชิดแผ่นรังผึ้งเกินไปเป็นต้น
  • การไม่คำนึงถึงการจัดการกับฝุ่น: การละเลยการทำความสะอาด และเกิดการสะสมของฝุ่นในเหมืองขุดสามารถทำให้ระบบระบายอากาศติดขัดและทำให้เกิดปัญหาของเครื่องขุดบิทคอยน์ได้ ระบบลมจะเย็นอย่างไรแต่หากเครื่องมีฝุ่นจำนวนมากขวางทางไหลเวียนของลม อาจไม่มีประโยชน์ในการลงทุน ควรติดตั้งมุ้งลวดกันแมลง/ฟิลเตอร์กันฝุ่นต่างๆ เพื่อใช้ในการกรองฝุ่น รวมทำถึงทำแผนในการทำความสะอาดอย่างน้อยสัปผดาห์ละ 1 ครั้ง
  • การวางพัดลมไม่เหมาะสม: การวางพัดลมให้ไม่เหมาะสมอาจทำให้มีการไหลของอากาศที่ไม่เหมาะสมและสร้างจุดอับของการไหลเวียนอากาศได้
  • การแยกส่วนของลมเย็นและลมร้อนชัดเจน : อาจติดตั้งแผ่นกั้นลมเพื่อเป็นการแยกลมร้อนและลมเย็นออกจากกันอย่างชัดเจน เืพ่อให้ลมร้อนไม่สะท้อนกลับมาบริเวณลมเย็นและย้อนกลับเข้าเครื่องขุด หากมีการนำเครื่องออกจากชั้นวาง และมีช่องห่าง ควรหากแผ่นกั้นลมมาตั้งกันเพื่อให้ไม่ลมร้อนและลมเย็นปนกัน
  • คำนึงถึงปริมาณลมที่จ่ายเข้าและปริมาณลมที่ดูดออกให้สัมพันธ์กัน : ลมเข้าควรมีปริมาณมากกว่าลมออกเพื่อให้ด้านลมเย็นมีแรงดันเป็นบวก ลดปัญหาฝุ่นเข้าในพื้นที่ได้อย่างมาก

การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ คุณสามารถรักษาการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ขุดของคุณ

2. การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบไม่สัมผัสกับบอร์ด (Water Cooling / Hydro Cooling)

จุดเริ่มต้นของระบบลดความร้อนด้วยน้ำในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ไม่ได้เริ่มจากในอุตสาหกรรมการขุดบิทคอยน์ แต่เริ่มต้นในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่ต้องการลดความร้อนจากคอมพิวเตอร์ ที่ทำงานหนักและเกิดความร้อนสะสมมากจนใช้แค่พัดลมระบายอากาศไม่เพียงพอ

การระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือที่รู้จักกันในนามของ การระบายความร้อนด้วยของเหลว (Hydro Cooling หรือ Liquid Cooling) ถูกใช้ในโลกของอิเล็กทรอนิกส์มาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว จุดกำเนิดของมันแพร่หลายในคนทั่วไปช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อถูกนำมาใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น คอมพิวเตอร์เมนเฟรมและซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ การระบายความร้อนด้วยของเหลวนี้ใช้สารทำความเย็น หรือของเหลวอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท เพื่อระบายความร้อนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรักษาอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสม

เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยของเหลวได้รับการพัฒนาและพบการประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ แพร่หลายขึ้นในวงการอื่นม รวมถึงสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ข้อมูล หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และคอมพิวเตอร์เกมมิ่งความสามารถสูงต่างๆ การระบายความร้อนด้วยของเหลวหรือระบบไฮโดรได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ในช่วงหลังสุดได้แพร่หลายไปยัง อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์ที่มีการประมวลผลที่สูงและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมากอย่างอุตสาหกรรมการขุดบิทคอยน์ การระบายความร้อนด้วยน้ำเป็นวิธีการควบคุมความร้อนที่อยู่ในขั้นสูงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยน้ำที่ใช้หล่อเย็นหรือระบายความร้อน จะไม่สัมผัสกับตัวบอร์ดขุดโดยตรง แต่เป็นระระบายความร้อนผ่านท่อภายในฮีตซิงค์ เรียกระบบนี้อีกนัยหนึ่งได้ว่าแบบ Indirect Cooling

แนวคิดการระบายความร้อนด้วยน้ำ:

ระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำใช้การถอดพัดลมระบายอากาศของเครื่องขุดบิทคอยน์ทั้งด้านลมเข้า และด้านระบาย ออก และติดตั้งฮีตซิงค์ หรือแผ่นระบายความร้อนที่มีท่อน้ำหรือสารเคมีที่ด้านในเข้าไปแทน ฮีตซิงค์ที่ทำหน้าที่นำความร้อนออกจากบอร์ดจะถ่ายเทความร้อนเข้ากับน้ำแทนลม แฮชบอร์ดจะถ่ายเทความร้อนผ่านthermal paste ให้กับฮ๊ตซิงค์ และน้ำเย็นที่ไหลเวียนอยู่ภายในดูดความร้อนออกจากฮีตซิงค์ จากนั้นน้ำที่ร้อนจะไปผ่านระบบคายความร้อนต่างๆ ที่ทำให้น้ำเย็น (แล้วแต่เลือกใช้ เช่น ระบบ Cooling Tower ต่างๆ) ก่อนที่จะวนกลับมาที่ฮีตซิงค์อีกครั้งเพื่อทำซ้ำกระบวนการระบายความร้อนจากแฮชบอร์ดอีกครั้ง

ประโยชน์ของการระบายความร้อนด้วยน้ำ:

  • ประสิทธิภาพการควบคุมความร้อนที่เพิ่มขึ้น: การควบคุมความร้อนด้วยน้ำมีประสิทธิภาพมากในการลดความร้อน ทำให้เหมาะสมสำหรับเครื่องขุดร้อนที่มีกำลังการทำงานสูง
  • ระดับเสียงที่ลดลง: ระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำมักมีระดับเสียงน้อยกว่าการระบายความร้อนด้วยลมเนื่องจากไม่มีการติดตั้งพัดลมความเร็วสูง
  • ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น: อุณหภูมิการทำงานที่ต่ำกว่าสามารถทำให้ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ขุดดีขึ้น ประหยัดพลังงานขึ้น

ข้อเสียของการระบายความร้อนด้วยน้ำ:

  • การติดตั้งที่ซับซ้อน: การติดตั้งระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำอาจจะซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการควบคุมความร้อนด้วยลม อาจจำเป็นต้องใช้สถานที่หรือพื้นที่เฉพาะ
    *ปัจจุบันมีผู้ผลิตตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขุดบิทคอยน์และระบายความร้อนด้วยน้ำออกมาบ้าง แต่เจ้าที่โดดเด่นที่สุดในตลาดก็ยังคงเป็นเจ้าใหญ่อย่าง Bitmain ที่ผลิตตู้สำเร็จรูป สำหรับผู้ที่อยากลดต้นทุนการขุดด้วยการใช้น้ำเป็นชุดหล่อเย็น ทีม Cryptodrilling ได้เขียนรีวิวสรุปอ่านง่ายๆ ถึงหลักการทำงาน รวมถึงจุดเด่น จุดด้อยของตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวไว้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวสรุปตู้คอนเทนเนอร์สำหรับhydro รุ่นAntminer HK3
  • ความยากในการบำรุงรักษา: ระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำต้องการการบำรุงรักษาเป็นคราว รวมถึงการเปลี่ยนสารเคมี

โครงสร้างพื้นฐาน

  • อุปกรณ์ระบายความร้อนชุดที่ติดกับเครื่องขุด (ASIC Cooling Equipment):
    ประกอบด้วยฮีตซิงค์ หรือครีบระบายความร้อนที่มีท่อไหลเวียนของเหลวอยู่ภายใน และ น้ำยาติดฮีตซิงค์ หรือ Thermal Paste
    โดยความร้อนจะถูกนำผ่าน Thermal Paste และถ่ายมาที่ฮีตซิงค์อลูมิเนียม หลังจากนั้งของเหลวที่วิ่งภายในฮีตซิงค์จะนำความร้อนออกจากฮีตซิงค์ เพื่อทำให้ Hashboard ของเครื่องขุดเย็นลง สำหรับท่านที่นึกอุปกรณ์ภายในเครื่องขุดASIC ไม่ออก สามารถเข้าไปดูภาพประกอบและคำอธิบายได้ที่ ส่วนประกอบของเครื่องขุดASIC
  • อุปกรณ์ระบายความร้อนชุดที่ใช้ระบายความร้อนออกจากของเหลว (Liquid Cooling Equipment):
    ประกอบด้วยพัดลม, ครีบแลกเปลี่ยนความร้อน, หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการระบายความร้อนออกจากของเหลว เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้ทำหน้าที่ระบายความร้อนออกจากของเหลวที่ได้รับความร้อนมาจากเครื่องขุดบิทคอยน์แล้ว ชุดระบายความร้อนนี้จะระบายความร้อนออกจากของเหลว ก่อนนำของเหลวนี้กลับไปใช้ใหม่อีกครั้ง
  • ท่อและข้อต่อต่างๆ (Piping and Connectors): ระบบไฮโดรคูลลิ่งมีท่อและส่วนเชื่อมต่อที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ระบายความร้อนกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการระบายความร้อน ท่อนี้จะนำของเหลวที่ระบายความร้อนไปยังชุดระบายความร้อน เพื่อนำความร้อนออกจากของเหลวและนำกลับเข้ามาที่เครื่องขุดใหม่อีกครั้ง
  • น้ำ หรือน้ำยาหล่อเย็น (Coolant): น้ำหรือน้ำยาหล่อเย็น เป็นของเหลวที่ใช้ในระบบไฮโดรคูลลิ่ง เพื่อรับความร้อนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และนำความร้อนนั้นออกจากระบบ น้ำยาหล่อเย็นมักจะมีคุณสมบัติในการรับความร้อนที่ดีกว่าน้ำทั่วไป และสามารถไหลกลับในระบบได้ ไม่มีความหนืดที่มากจนเกินไป
  • ปั๊ม (Pumps): ปั๊มใช้ในการนำสารหล่อเย็นไหลผ่านระบบ ปั๊มมักจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้น้ำยาหล่อเย็นหรือน้ำไหลผ่านอุปกรณ์ระบายความร้อนและกลับมาในระบบ

ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายทำระบบ Hydro Cooling ออกมาจำหน่าย ตามรุ่นหรือยี่ห้อของเครื่องขุด เราได้เขียนรีวิวสำหรับระบบนี้ไว้สำหรับระบบในตู้คอนเทนเนอร์จาก BITMAIN เรื่อง รีวิวเจาะลึก Antspace HK3 ระบบไฮโดรสำเร็จรูป สามารถเข้าไปอ่านและดูรูปเพิ่มเติมได้

ประเภทของระบบระบายความร้อนแบบไฮโดร

  1. Open-loop Liquid Cooling System (ระบบไฮโดรคูลลิ่งแบบวงจรเปิด): ระบบนี้ใช้น้ำหรือน้ำยาหล่อเย็นหรือของเหลวในการระบายความร้อนจากอุปกรณ์ และนำของเหลวเหล่านี้ไประบายความร้อนที่ภายนอกด้วยท่อ อาจมีการระบายความร้อนออกผ่านการฉีดผ่านหัวน็อตเซิล หรือผ่านcooling tower โดยน้ำยาจะสัมผัสกับอากาศภายนอกระบบเพื่อทำการแลกเปลี่ยนความร้อนออก จึงเรียนว่าเป็นระบบวงจรเปิด และน้ำหรือสารหล่อเย็นนี้จะถูกนำกลับใช้ซ้ำในระบบเรื่อยๆ ระบบนี้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนเร็ว แต่ต้องมีการบำรุงรักษาค่อนข้างสูงเพื่อตรวจสอบระดับน้ำและความสะอาดของระบบ
  2. Closed-loop Liquid Cooling System (ระบบไฮโดรคูลลิ่งแบบวงจรปิด): ระบบนี้มีลักษณะคล้ายกับระบบไฮโดรคูลลิ่งแบบวงจรเปิด แต่มีหนึ่งความแตกต่างสำคัญคือของเหลวไม่สัมผัสกับอากาศ เมื่อน้ำหรือสารหล่อเย็นทำหน้าที่ระบายความร้อนจากอุปกรณ์แล้ว มันจะถูกนำออกมาเพื่อวนในท่อที่สามารถแลกเปลี่ยนความร้อนได้ อาจต้องใช้ระยะทางหรือจำนวนท่อมากเพื่อให้ลดอุณหภูมิได้มากพอ ก่อนนำของเหลว วนกลับไปที่ระบบเพื่อระบายความร้อนจากเครื่องขุดบิทคอยน์อีกครั้ง

เคล็ดลับสำหรับการเลือกและติดตั้งระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำ:

  • เลือกระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำที่เข้ากันได้กับเครื่องขุดบิทคอยน์ของคุณ
  • ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่ว หรือมีแผนสำรองหากเกิดการรั่วของน้ำในระบบ
  • สังเกตระดับน้ำและประสิทธิภาพของระบบเป็นตารางชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่น ระดับของเหลวต่ำจนทำให้บอร์ดขุดร้อนจนเกิดความเสียหาย

Air-cooling VS Hydro-cooling Solutions :
เปรียบเทียบระบบระบายความร้อนแบบไฮโดรกับระบบระบายด้วยอากาศทั่วไป

การเปรียบเทียบระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ (Hydro-cooling) กับระบบการระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air-cooling) มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาวะการใช้งานของเครื่องขุดและการจัดการความร้อนที่ต้องการในแต่ละกรณี:

Hydro-cooling (ระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ):

  1. ประสิทธิภาพในการระบายความร้อน: Hydro-cooling มักมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการระบายความร้อนในกรณีที่เครื่องขุดทำงานในสภาพแวดล้อมที่ความร้อนสูง เช่นในประเทศที่มีอากาศร้อน หรือพท้นที่ที่อากาศร้อน เครื่องขุดจะมีการใช้พลังงานมากและมีความร้อนสูง น้ำมีความสามารถในการลดอุณหภูมิได้มากกว่าอากาศ เรื่องจากค่าความสามารถการแลกเปลี่ยนความร้อนมากกว่าอากาศถึงเกือบ 4 เท่า ยังไม่นับว่าหากเปลี่ยนของเหลวในระบบมาใช้เป็น สารหล่อเย็น ที่ให้การแลกเปลี่ยนความร้อนมหาศาล
  2. ควบคุมอุณหภูมิ: Hydro-cooling ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำและเสถียรกว่าแบบอากาศ ผ่านการปรับการไหลของน้ำหรือของเหลว และยังสามารถลดโอกาสเกิดจุดอับของการไหลเวียนอากาศ หากมีฝุ่นเกาะที่ฮีตซิงค์หรือเครื่องขุดบิทคอยน์
  3. เสียงน้อยกว่า: ระบบ Hydro-cooling ไม่จำเป็นต้องติดตั้งพัดลมรอบสูงไว้ที่ตัวเครื่องขุด และระบบพัดลมระบายอากาศสำหรับชุดระบายความร้อนให้ของเหลว มักเป็นพัดลมหมุนรอบต่ำที่เงียบกว่า ทำให้ลดปัญหาเสียงรบกวนได้มาก

Air-cooling (ระบบการระบายความร้อนด้วยอากาศ):

  1. ง่ายต่อการติดตั้ง: ระบบ Air-cooling มักง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน ไม่ต้องมีระบบน้ำหรือการท่อต่างๆ
  2. ต้นทุนต่ำกว่า: ระบบ Air-cooling มักมีต้นทุนติดตั้งและดูแลรักษาต่ำกว่า Hydro-cooling และมักไม่ต้องมีการบำรุงรักษาที่ซับซ้อน
  3. เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป: ระบบ Air-cooling สามารถหาซื้ออุปกรณ์ได้ทั่วไป เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย
  4. ไม่ต้องมีน้ำหรือค่าใช้จ่ายเรื่องสารหล่อเย็น: ระบบ Air-cooling ไม่ต้องการน้ำหรือสารหล่อเย็นเหมือน Hydro-cooling ที่อาจต้องดูแลและบำรุงรักษาเพิ่มเติม
ตู้คอนเทนเนอร์จากBitmain สำหรับใช้งานคู่กับเครื่องขุดที่ใช้การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ Hydro

3. การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม (Immersion Cooling)

การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่มโดยบอร์ดขุดจะถูกจุ่มลงใน อาจถูกเรียกอีกชื่อได้ว่า Submersion Cooling Method น้ำที่ใช้หล่อเย็นหรือระบายความร้อน น้ำหรือน้ำยาจะสัมผัสกับตัวบอร์ดขุดโดยตรง เรียกระบบนี้อีกนัยหนึ่งได้ว่าแบบ Direct Cooling

หลักการทำงานคล้ายกับระบบ Hydro Cooling โดยมีการนำบอร์ดขุด จุ่มลงในน้ำยาแลกเปลี่ยนความร้อน น้ำยาจะมีการหมุนเวียนโดยไหลผ่านบอรืดนำความร้อนออกจากบอร์ดขุดโดยตรง และน้ำยาจะถูกนำออกไปคายความร้อนออกโดยระบบถ่ายเทความร้อนต่างๆ แล้วแต่เลือกใช้ แล้ววนกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง

ประโยชน์ของการระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม:

  • การแลกเปลี่ยนความร้อนดีที่สุดในทุกประเภทการระบายความร้อน เนื่องจากน้ำยาที่ใช้เป็นน้ำยาที่สัมผัสกับบอร์ดโดยตรง สามารถนำความร้อนออกจากบอร์ดโดยไม่ผ่านตัวกลางอื่นๆ ทำให้ประสิทธภาพของน้ำยาถูกทำมาใช้ระบายความร้อนได้เต็มที่
  • ลดค่าไฟจากการทำงานได้อย่างมาก
  • ลดพื้นที่การติดตั้ง เนื่องจาก สามารถนำบอร์ดออกมาจุ่้มลงในถังใส่น้ำยาโดยตรงได้โดนไม่ต้องมีเคส หรือพัดลมระบายอากาศ
  • ลดเสียงรบกวน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมรอบสูงเพื่อระบายความร้อน
  • การดูแลของเหลวต่ำ เนื่องจากของเหลวที่ใช้ มักไม่ระเหยเร็วเท่าระบบน้ำ Hydro จึงไม่จำเป็นต้องมีการเติมเนื่องจากการระเหยบ่อยเท่า

ข้อเสียของการระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม:

  • การดูแลรักษาน้ำยา : ต้องอาศัยความเข้าใจทั้งระบบและตัวน้ำยาเช่น ความหนืดที่สำควรใช้รวมถึงรอบการเปลี่ยนน้ำยาหรือบำรุงรักษาน้ำยา
  • ค่าใช้จ่ายของน้ำยาสูงกว่าระบบ Hydro : เนื่องจากเป็นน้ำยาที่ใช้เฉพาะทาง เช่น มีคุณสมบัติไม่นำไฟฟ้า เนื่องจากเป็นการทำงานกับบอร์ดอิเล็คทรอนิกส์ ราคาน้ำยาแลกมา่ด้วยค่าการแลกเปลี่ยนความร้อนที่ดีขึ้น อาจควรคำนึงถึงความคุ้มค่า หากต้องการนำไปใช้กับเครื่องขุดที่ไม่มีประสิทธภาพสูงเท่าที่ควร
  • การซ่อมแซมเครื่อง : จำเป็นต้องมีวิธีและลำดับในการเตรียมบอร์ดก่อนนำไปซ่อมเนื่องจากน้ำยาจะเคลือบบอร์ดขุดอยู่ หากส่งซ่อมกับผู้ไม่มีประสบการณ์ด้านimmersion อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับบอร์ดขุดได้ เช่น ทำความสะอาดน้ำยาออกไม่หมด ทำให้ระหว่างการซ่อมมีการช็อตของบอร์ดเกิดขึ้น เป็นต้น
  • เงินลงทุนสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการรันเครื่องขุดบิทคอยน์ จำนวนมาก หรือระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากจุดคุ้มทุนใช้เวลานาน สำหรับการลงทุนด้านการขุดระดับกลาง

ประเภทของ Immersion Cooling ในการขุดบิทคอยน์

  • การแช่ในสารละลายชนิด Single-Phase Immersion Cooling

การแช่ในสารละลายชนิด Single-Phase Cooling เป็นหนึ่งในวิธีการหลักของ Immersion Cooling ในวิธีการนี้ เครื่องขุดบิทคอยน์จะถูกแช่ในสารละลาย dielectric ในถังหรือตู้ที่ออกแบบมาเฉพาะ สารละลายจะช่วยในการระบายความร้อนออกจากฮาร์ดแวร์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสารละลายนี้จะคงสภาพเป็นของเหลวตลอดการทำงานไม่ว่าจะร้อนหรือเย็น

ข้อดีของการแช่ในสารละลายชนิด Single-phase Immersion Cooling คือความยืดหยุ่น ที่สามารถนำระบบนี้ไปใช้ได้กับเครื่องขุดบิทคอยน์ที่หลากหลาย สา่มารถใช้ได้ทั้ง ASIC miners หรือ GPUs ต่างๆ อีกทั้งราคาน้ำยาและระบบมีต้นทุนในการลงทุนไม่สูงเทียบกับแบบ Two-phase Immersion Cooling *ข้อมูลราคาอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นกับผู้ผลิต

ตัวอย่างสินค้า จาก Shell : มีผลิตภัณฑ์สารละลายสำหรับใช้ในimmersion cooling system ที่ทดสอบแล้วว่าสามารถลดปริมาณการกินไฟฟ้าได้ถึง 40% และสามารถนำไปใช้ในอุตหกรรมหลากหลายเช่น Telecom หรือ cloud provider

  • การแช่ในสารละลายชนิด Two-Phase Immersion Cooling

การแช่ในสารละลายชนิด Two-Phase Immersion Cooling ใช้การแปรงเปลี่ยนของสารละลายเป็นแก๊ส ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการระบายความร้อนออกจากฮาร์ดแวร์อย่างมีประสิทธิภาพ การแช่ในสารละลายชนิดนี้มักถูกนำมาใช้ในฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความร้อนสูง เช่น ASIC miners ที่ใช้งานอย่างต่อเนื่อง

ความแตกต่างที่สำคัญของการแช่ในสารละลายชนิด Two-Phase Immersion Cooling คือการใช้งานสารละลายที่มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างของเป็นแก๊ส โดยเคมีที่ใช้ เป็นสารเคมีที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นแก๊สเมื่อได้รับความร้อน การเปลี่ยนสถานะนี้ ทำให้เกิดการดูดซึมความร้อนได้มาก หลังจากนั้นแก๊สจะถูกทำให้เย็นตัวลงและคายความร้อน เปลี่ยนสถานะกลับมาเป็นของเหลววนกลับมาใช้แลกเปลี่ยนความร้อนอีกครั้ง

เคล็ดลับสำหรับการเลือกและติดตั้งระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม:

  • เลือกผู้ผลิตน้ำยาที่สามารถตอบคำถามและตารางการดูแลได้ชัดเจน เช่น ทิ้งสารเคมีอย่างไร ค่าอะไรบ้างที่เป็นตัวแปรที่ควรพิจารณาหากต้องเปลี่ยนน้ำยาเคมี
  • คำนวณต้นทุนในการลงทุนในระบบและค่าน้ำยาที่ต้องการเปลี่ยน ก่อนตัดสินใจ
  • หาทีมช่าง หรือทีมซ่อมที่สามารถซ่อมบอร์ดหรือเครื่องขุดที่ผ่านการจุ่มน้ำยามาได้เท่านั้น ช่างที่ไม่เคยผ่านการซ่อมบอร์ดจากการใช้งานลักษณะนี้ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อบอร์ดโดยไม่คาดคิด

Immersion-Cooling VS Hydro-Cooling Solutions :
เปรียบเทียบระบบระบายความร้อนแบบจุ่มกับระบบน้ำ

การเปรียบเทียบระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ (Hydro-cooling) กับระบบการระบายความร้อนแบบจุ่ม (Immersion-cooling) มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาวะการใช้งานของเครื่องขุดและการจัดการความร้อนที่ต้องการในแต่ละกรณี:

  1. การใช้พื้นที่ : ระบบ Hydro-cooling มักใช้พื้นที่มากกว่าเนื่องจากยังต้องมีโครงของเครื่องและมีท่อและวาล์วจำนวนมาก ในขณะที่ระบบ Immersion-cooling สามารถจุ่มเฉพาะบอร์ดขุดลงไปในถังน้ำยาได้เลย ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก
  2. การซ่อมเครื่องขุด : เครื่องขุดที่ใช้ในระบบ Hydro-cooling จะสามารถซ่อมแซมได้ง่ายและเร็วกว่า เนื่องจากเครื่องขุดที่ใช้กับระบบImmersion ที่จุ่มน้ำยา จะมีของเหลวที่มีลักษณะคล้ายน้ำมันเคลือบอยู่ จำเป็นต้องมีวิธีและลำดับในการเตรียมบอร์ดก่อนนำไปซ่อม หากส่งซ่อมกับผู้ไม่มีประสบการณ์ด้าน immersion อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับบอร์ดขุดได้ เช่น ทำความสะอาดน้ำยาออกไม่หมด ทำให้ระหว่างการซ่อมมีการช็อตของบอร์ดเกิดขึ้น เป็นต้น
  3. ประสิทธิภาพการระบายความร้อน: Hydro-cooling ใช้น้ำหรือสารหล่อเย็นในการระบายความร้อนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บอร์ดของเครื่องขุดจะระบายความร้อนผ่าน thermal pasteและฮีตซิงค์และส่งความร้อนต่อไปยังน้ำหรือสารหล่อเย็น Hydro-cooling มักมีประสิทธิภาพเป็นรอง Immersion cooling ในการระบายความร้อนเนื่องจากสารหล่อเย็นต้องผ่านตัวกลางสองตัว ก่อนไปถึงน้ำยาทำให้การระบายอาการเป็นไปได้ช้ากว่า
  4. ความซับซ้อนและการบำรุงรักษาระบบ: ระบบ Hydro-cooling มักมีโครงสร้างที่ซับซ้อนมากกว่าเนื่องจากมีท่อและวาล์วจำนวนมากที่ต้องถูกควบคุมในระบบ และต้องการการบำรุงรักษาที่เพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบระดับสารหล่อเย็นและการบำรุงรักษาสายท่อ

การใช้งานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง:

การดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อนรวมถึงตัวเครื่องขุดบิทคอยน์ไว้ในระดับสูงสุดได้

การบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง:

  • รักษาความสะอาดของพัดลม ความสะอาดของน้ำ และกรองฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ
  • เฝ้าตรวจเช็คอุณหภูมิและปรับการตั้งค่าการระบบระบายความร้อนอยู่สม่ำเสมอ
  • เปลี่ยนพัดลมที่ชำรุดทันทีเพื่อรักษาประสิทธิภาพการระบายความร้อน

เคล็ดลับการบำรุงรักษา:

การบำรุงรักษาที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิดปัญหาเกี่ยวกับความร้อน นี่คือขั้นตอนสรุปง่ายๆ

ขั้นตอนการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์

  • ทำความสะอาดตัวกรองฝุ่นและพัดลมอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาการถ่ายเทของอากาศ หรือหากเป็นระบบน้ำ หมั่นทำความสะอาดระบบ หรือมีแผนในการตรวจเช็คความสะอาดของน้ำ/น้ำยาอยู่สม่ำเสมอ เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งสำหรับพัดลม เดือนละ 4-8 ครั้งสำหรับระบบน้ำยา
  • ตรวจสอบสายและการเชื่อมต่อตามข้อต่อต่างๆ เพื่อลดปัญหาการรั่วซึมหรือหลุดที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการระบายความร้อน
  • ตรวจค่ากลาง ของเซ็นเซอร์ต่างๆอยู่เสมอ (Sensors Calibration) เช่น เซ็นเซอร์ความหนืด ความร้อน หรือ การรั่วซึม เพื่อให้มั่นใจว่าเซ็นเซอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพเชื่อถือค่าต่างๆได้ ลดความเสี่ยงต่อเครื่องขุดบิทคอยน์และระบบที่ใช้งาน
  • ติดตามระดับอุณหภูมิและปรับการตั้งค่าการควบคุมความร้อนตามความจำเป็น : ในแต่ละฤดูกาลของประเทศไทย อาจต้องมีการเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆให้เหมาะสม

ปัญหาที่พบบ่อย

  • พัดลมเสีย ทำให้เครื่องไม่ทำงาน ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอกภัยพื้นฐานของเครื่องรุ่นใหม่ๆ
  • ใบพัดของปั๊มน้ำยาพัง

วิธีแก้ไขปัญหา:

  • ควรซื้ออะไหล่พัดลมมาเก็บเป็นสต็อกไว้เพื่อพร้อมเปลี่ยนอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำคัญที่มักเสียก่อนอุปกรณ์อื่น อาจสต็อกไว้ 5-10% ของจำนวนพัดลมทั้งหมดที่มี เช่น มีเครื่องขุด 100 เครื่อง ควรสำรองพัดลมเอาไว้ 5% หรือ 20 ตัว
  • หลังจากการถอดทำความสะอาดท่อน้ำยาต่างๆ ระมัดระวังไม่ให้มีลมอยู่ในระบบท่อน้ำ ท่อน้ำยา อาจทำให้ใบพัดของปั๊มเสียหายจากการมีลมอยู่ในระบบ
  • หากมีปัญหาเกี่ยวกับความร้อน ตรวจสอบพัดลมและตั้งค่าการควบคุมความร้อนให้ถูกต้อง หากเป็นระบบน้ำควรตรวจสอบความร้อนของน้ำและความร้อนของระบบอยู่ประจำ หรือมีการติดตั้งเซ็นเซอร์เพื่อเตือนความผิดปกติ
  • หากมีปัญหาเกี่ยวกับเสียง ตรวจสอบพัดลมและอุปกรณ์ที่เป็นไปได้ที่จะส่งเสียง ควรมีอะไหล่พัดลมรอไว้เพื่อสำหรับใช้เปลี่ยน เพระาปัจจุบันเครื่องขุดมักไม่ให้เครื่องรันต่อหากพัดลมไม่ทำงาน

immersion cooling unit by DCX

การดูแลรักษาและบำรุงรักษา Hydro Cooling และ Immersion Cooling

การดูแลรักษาและบำรุงรักษาระบบ Hydro Cooling คือกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้ระบบคงทนและทำงานอย่างเสถียร โดยมีขั้นตอนและปฏิบัติที่สำคัญดังนี้:

  1. ตรวจสอบระดับและสภาพของสารหล่อเย็น: ทำการตรวจสอบระดับสารหล่อเย็นในระบบเพื่อให้แน่ใจว่ามีสารเพียงพอสำหรับการทำงาน และไม่มีความชำรุดหรือความเสียหาย หรือสภาวะไม่พร้อมใช้งาน เช่น ความหนืดมาก ความสกปรกหรือปนเปื้อน ที่อาจทำให้ระบบมีปัญหา
  2. การดูแลรักษาสายท่อและส่วนเชื่อมต่อ: ตรวจสอบสายท่อและส่วนเชื่อมต่อเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยรั่วหรือการเสียหาย และเชื่อมต่อทั้งหมดอยู่ในสภาพดี อาจทำการติดตั้งเซ็นเซอร์วัดความชื้นเพิ่มเติม
  3. ทำความสะอาดระบบ: สารหล่อเย็นอาจมีการสะสมตะกอนหรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ ในระบบ ให้ทำการทำความสะอาดระบบอย่างเป็นระยะเพื่อป้องกันการตีความ
  4. การเปลี่ยนสารหล่อเย็น: สารหล่อเย็นจะมีอายุการใช้งาน ควรตรวจสอบความสามารถในการทำงานและอายุการใช้งานและเปลี่ยนสารหล่อเย็นตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
  5. ควบคุมและปรับอุณหภูมิ: ระบบ Hydro Cooling จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ระบบทำงานอย่างเป็นประสิทธิภาพ ควรตรวจสอบการควบคุมและปรับอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ
  6. การตรวจสอบระบบปั๊ม: ระบบปั๊มใน Hydro Cooling มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนย้ายสารหล่อเย็น ควรตรวจสอบปั๊มและระบบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทำงานอย่างถูกต้อง ห้ามไม่ให้มีอากาศภายในระบบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องใบพัดปั๊มน้ำถูกทำลาย
  7. เตรียมการและแผนการดำเนินงาน: ควรจัดการเตรียมการและแผนการดำเนินงานสำหรับการบำรุงรักษาและปรับปรุงระบบ Hydro Cooling อย่างเป็นระยะเพื่อให้ระบบคงทนและมีประสิทธิภาพตลอดเวลา

สรุป

ระบบที่มีใช้ปัจจุบัน คือ

  • ระบบระบายความร้อนด้วยลม
  • ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ Hydro Cooling (น้ำไม่สัมผัสกับบอร์ด)
  • ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ Immersion Cooling (แบบจุ่มลงไปในน้ำยา)

การควบคุมความร้อนและเสียงในการขุดบิทคอยน์เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างผลกำไรในการขุดและดำเนินงานอย่างคุ้มค่าและไม่สร้างเสียงรบกวน หากคุณสามารถควบคุมความร้อนให้เหมาะสม คุณจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและประสิทธิภาพของการขุดบิตคอยน์ของคุณจะดีขึ้น

แนะนำการดำเนินการ:

  • วางแผนว่าเงินลงทุน และระบบที่ควรเลือกใช้ควรเป็นอย่างไร ให้เข้ากับสถานที่และประเภทเครื่องขุด (หากเปลี่ยนจากระบายความร้อนแบบลมมาเป็นน้ำ โดยเครื่องที่มีอยู่แล้ว ควรเช็คความเข้ากันได้ของอุปกรณ์เนื่องจาก อาจไม่ใช่ทุกรุ่นสามารถเปลี่ยนมาเป็นระบบน้ำได้)
  • เลือกอุปกรณ์ที่มีระดับเสียงต่ำและมีประสิทธิภาพสูง
  • ติดตามและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง
  • หากอะไหล่ และระบบความปลอดภัยให้ดี โดยเฉพาะระบบน้ำ

หลังเข้าใจความแตกต่างของระบบระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการขุดและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำงานได้ โดยใช้กลยุทธ์ที่เรากล่าวถึงในบทความนี้ คุณจะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการควบคุมความร้อนและเสียงในอุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์

เริ่มการขุดไปกับ Cryptodrilling

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักขุดที่มีประสบการณ์หรือเพิ่งเริ่มต้น Cryptodrilling มีบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของคุณ

  • พูลขุด hashOS โดยทีม Cryptodrilling: ขุดบิทคอยน์และ LTC/DOGE ด้วยเรทที่ถูกกว่า! พูลเดียวที่มีทีมในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทีม Cryptodrilling พร้อมดูแล คลิ้กที่นี่เพื่อสมัครใช้ hashOS หรือหากยังไม่แน่ใจ อ่านบทความ 7 เหตุผลที่ต้องขุดกับ hashOS ได้ที่นี่!
  • บริการซ่อมเครื่องขุด ASIC: ยืดอายุอุปกรณ์ขุดเหมืองของคุณด้วยบริการซ่อมแซม ASIC ที่เหมืองใหญ่ในไทยเลือกใช้! ทีมงานของเราจะให้บริการให้เครื่องของคุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณได้ผลตอบแทนสูงสุด อ่านเกี่ยวกับบริการซ่อมของเราเพิ่มเติมได้ที่นี่
  • บริการจัดซื้อ ASIC (สั่งขั้นต่ำ 50 เครื่อง): หากคุณกำลังต้องการขยายกำลังการขุดและต้องการซื้อ ASIC เพิ่ม ทีม Cryptodrilling สามารถช่วยจัดซื้อผ่าน Distributor โดยตรง พร้อมดูแลการขนส่งให้ ติดต่อ Line OA เราได้เลย
  • บริการโฮสติ้งและการจัดหาพลังงาน (ขั้นต่ำ 1MW เท่านั้น): สำหรับเหมืองขนาดใหญ่ เรามีบริการฝากวางเครื่อง และ/หรือการจัดหาพลังงาน โดยที่เรามีบริการตั้งแต่ Turnkey Solution (เอาเครื่องมาเสียบได้เลย) ไปจนถึงการหาแหล่งพลังงาน การสร้าง Infrastructure จัดซื้อ Container (ปัจจุบันเรามีแหล่งพลังงานในสหรัฐอเมริกาและลาว) สำหรับนักขุดขนาดใหญ่ที่มีความสนใจบริการนี้ สามารถติดเราผ่าน Line OA หรืออีเมลมาได้ที่ business@cryptodrilling.com

ช่องทางการติดต่อ

หากมีความต้องการอื่นๆ สามารถติดต่อเราผ่านทางช่องทางอื่นๆได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ Cryptodrilling พร้อมที่จะดูแลธุรกิจขุดคริปโตของคุณ!

Facebook Page | Facebook Messenger | Line OA | 089-485-0688

Share this Article:

Share this Article:

line

Recent Articles

line