เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้งานเครื่องขุดบิทคอยน์หรือเครื่องขุดคริปโตประเภท ASICs เป็นหลัก เราจึงขอนำเสนอข้อมูลการระบายความร้อนของเครื่องขุดดังกล่าวเพียงอย่างเดียวในบทความนี้ หากท่านต้องการหาอ่านเพิ่มเติมว่าในตลาดมีเครื่องขุดชนิดใดบ้าง และเครื่องขุดบิทคอยน์คืออะไร
ระบบระบายความร้อนในการขุดบิทคอยน์
ในบทความนี้ เราจะสำรวจและสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์ที่ใช้ระบบลมและน้ำในการลดความร้อน ซึ่งสามารถใช้หลักการเดียวกันไม่ว่าท่านกำลังขุดเครื่องขุดบิทคอยน์ชนิดใด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มกำไร
ความสำคัญของระบบระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์
เหมืองขุดบิทคอยน์ โดยเฉพาะเครื่องขุดบิทคอยน์ประเภท ASICs ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาเข้ารหัสที่ซับซ้อนและรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม พลังงานการคำนวณนี้มีค่าใช้จ่าย นั่นคือค่าไฟฟ้า การสร้างความร้อนปริมาณมากจากการทำงาน เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เครื่องขุดบิทคอยน์เหล่านี้กินไฟมากหรือน้อยลงโดยตรง การระบายความร้อนอย่างเหมาะสมในเหมือง จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
การระบายความร้อนที่ไม่เพียงพออาจส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้นภายในพื้นที่ขุด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการดำเนินงานของเหมืองขุด อุณหภูมิสูงอาจทำให้อุปกรณ์เกิดความร้อนมากเกินไป ทำให้การประมวลผลลดลงและอาจทำให้เสียหายอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น การระบายความร้อนที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจเสี่ยงต่อความเสี่ยงของการเสียหายในอุปกรณ์และเวลาอยู่ในโหมดที่ไม่ทำงาน อาจลุกลามไปถึงอาการลัดวงจรของไฟฟ้าเนื่องจากฉนวนของสายไฟเสียสภาพ การระบายอากาศที่ดีจึงส่งผลไปถึงความปลอดภัยของอุปกรณ์และทรัพย์สินด้วย
เพิ่มกำไร ลดระยะเวลาคืนทุน ได้อย่างไร
เครื่องขุดบิทคอยน์สร้างความร้อนปริมาณมากและความร้อนนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขุด และกำไรจากการรันเครื่องขุดของคุณโดยตรง ความร้อนนี้เป็นผลของการคำนวณที่ใช้พลังงานอย่างมหาศาลสำหรับการขุด แม้ว่าเราจะหลีกเลี่ยงความร้อนไม่ได้ แต่เราสามารถบริหารความร้อนและใช้มันเป็นตัวแปรสำคัญในการลดต้นทุนในการขุดได้
ความร้อน VS ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ขุด
ความสัมพันธ์ระหว่างความร้อนและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ขุดมีความเชื่อมโยงโดยตรง หากอุปกรณ์ขุดร้อนเกินไป สามารถทำให้เกิดปัญหาหลายประการได้:
- ลดประสิทธิภาพ: ความร้อนมากเกินไปสามารถทำให้อุปกรณ์ขุดมีประสิทธิภาพโดยรวมลดลง ซึ่งเปลี่ยนเป็นรางวัลขุดเหรียญที่ต่ำลง
- อายุการใช้งานสั้น: การแสดงผลต่อเวลาที่ให้อุปกรณ์ขุดทนความร้อนสูงสามารถลดลงอย่างมาก ซึ่งต้องการการซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูง
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น: หากเครื่องขุดร้อน ฮาร์ดแวร์จะทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ได้แรงขุดเท่าเดิม ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
*สิ่งนี้สำคัญอย่างมาก จากประสบการณ์บริหารจัดการเหมืองขุดบิทคอยน์ ทีม Cryptodrilling พบว่า เครื่องขุดที่ไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ดีพอ ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้น ; เพียง 5 องศา ส่งผลให้มีการกินไฟ หรือใช้ไฟฟ้ามากกว่าเดิมสูงถึงเกือบ 10%
ปัจจัยที่มีผลต่อระบบระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์
สิ่งสำคัญสำหรับการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
แหล่งกำเนิดความร้อน: เครื่องมือขุดเป็นแหล่งกำเนิดความร้อนหลักในเหมืองขุดบิทคอยน์ ASICs และ GPU สร้างความร้อนระหว่างกระบวนการขุด และความร้อนนี้ต้องถูกเอาออกอย่างเหมาะสม ทิศทางของความร้อนอยู่ด้านใดของห้อง และมีปริมาณเท่าไหร่ เป็นข้อมูลที่ผู้ขุดควรทราบก่อนเริ่มดำเนินการ
สภาพแวดล้อมของห้อง: ปัจจัยเช่นอุณหภูมิห้อง สถานที่ตั้งโรงเรื่อนอยู่กลางแดด หรืออยู่ในพื้นที่ร่ม และความชื้นมีมากน้อยเพียงใด โรงงานขุดบิทคอยน์ควรตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นต่ำ เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์มีความไวต่อความชื้นและฝุ่นมากพอๆกับความร้อน
ปัจจัยภายนอก: ปัจจัยภายนอกเช่นสภาพอากาศและมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม สามารถมีผลต่อการระบายอากาศ ความถี่ของฤดูฝน อากาศภายนอกอาคาร แมลง และฝุ่นต่างๆเป็นต้น
ในบทความนี้เราจะอธิบายถึงหัวข้อต่างๆดังนี้
- ประเภทของการระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์มีอะไรบ้าง
-การระบายความร้อนด้วยลม (Air Cooling)
-การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบไม่สัมผัสกับบอร์ด (Water/ Hydro Cooling)
-การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม (Immersion Cooling) - ข้อดี-ข้อเสีย ของการระบายความร้อนแต่ละประเภท
- เคล็ดลับในการเลือกและติดตั้งการระบายความร้อนแบบต่างๆ
- การใช้งานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง
- ปัญหาที่พบบ่อย
- วิธีแก้ไขปัญหา
ประเภทของการระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์มีอะไรบ้าง
เครื่องขุดบิทคอยน์ผลิตความร้อนออกมาสูง การระบายความร้อนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งการถ่ายความเย็นเข้าและถ่ายความร้อนออก โดยในบทความนี้เราจะเรียกทั้งสองอย่างรวมกันว่าการระบายความร้อน สามารถแบ่งการระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์ออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆนั่นคือ
1. การระบายความร้อนด้วยลม (Air Cooling)
ระบบระบายความร้อนด้วยลมใช้ พัดลมในการระบาย ตามปกติแล้วเครื่องขุดเมื่อทำงาน บอร์ดจะร้อน (อาจสูงถึง 9X องศา ในประเทศไทย) เมื่ออุปกรณ์ขุดร้อน ฮีตซิงค์หรือแผ่นระบายความร้อนที่ติดกับฮาร์ดแวร์จะดูดความร้อนและถ่ายความร้อนมันให้กับอากาศ โดยใช้พัดลมของเครื่องขุดเป่าลมเย็นเข้าเครื่องพร้อมดูดออก อากาศที่ร้อนขึ้นจากเครื่องขุดนั้นจะถูกขับออกจากเครื่องขุดเพื่อรักษาอุณหภูมิการทำงานที่คงที่ การระบายความร้อนด้วยลมเป็นหนึ่งในวิธีที่พบบ่อยที่สุด ต้นทุนถูกที่สุด ในการขุดบิทคอยน์
การจัดการการไหลเวียนอากาศพื้นฐาน
การจัดการการไหลอากาศอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งหลักในการระบายความร้อนในเหมืองขุดบิทคอยน์ เพื่อให้ได้รับการระบายอากาศที่เหมาะสม สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ
การจัดตำแหน่งอุปกรณ์: จัดวางเครื่องขุดอย่างเหมาะสมในแถวที่มีระยะห่างพอเพียงเพื่อให้เกิดการไหลอากาศระหว่าลมเย็น และลมร้อน ซึ่งช่วยป้องกันความร้อนและช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรมีระยะห่างจากผนังจนถึงเครื่องขุดบิทคอยน์มากพอให้ลมร้อนที่ออกจากเครื่องขุดไม่สะท้อนกลับเข้ามาโดนเครื่อง
ตัวอย่าง เครื่อง Antminer S19 มีความเร็วลมขาออกจากพัดลม 6000RPM รอบสูง ควรติดตั้งให้ห่างจากผนังมากพอที่ลมร้อนจะไม่ย้อนมาโดนตัวเครื่อง เช่น 2-3 เมตร หากไม่มีพัดลมฟาร์มช่วยดึงลมร้อนออกจากพื้นที่
ระบบนำอากาศเข้าและระบบระบายอากาศ: สามารถใช้พัดลมนำอากาศเข้าเพื่อดูดอากาศเย็นจากภายนอกโรงงานและพัดลมระบายความร้อนเพื่อขับอากาศร้อนออก การจัดตำแหน่งพัดลมอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการไหลอากาศที่เป็นประสิทธิภาพ สเปคที่สำคัญในการออกแบบจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป
ความดันบวก: หากสามารถทำได้ ควรรักษาความดันอากาศบวกในเหมืองหรือพื้นที่ อย่างน้อยด้านลมเข้าเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและให้การไหลอากาศสะอาดผ่านเครื่องขุด
ข้อดีของการควบคุมความร้อนด้วยลม:
- มีราคาไม่แพง: ระบบควบคุมความร้อนด้วยลมมักจะมีราคาไม่แพงเมื่อติดตั้งเปรียบกับโซลูชันการควบคุมความร้อนด้วยน้ำ
- ง่ายต่อการบำรุงรักษา: มันง่ายต่อการบำรุงรักษาและทำความสะอาดโดยช่วยในการป้องกันการสะสามของฝุ่นที่สามารถขัดขวางการไหลของอากาศ
ข้อเสียของการควบคุมความร้อนด้วยลม:
- ระบายความร้อนได้จำกัด: ระบบระบายความร้อนด้วยลมมีข้อจำกัดในความจุในการควบคุมความร้อน ทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งที่มีเครื่องขุดร้อนเนื่องจากเกิดข้อจำกัดจาก Thermal Paste หรือน้ำยาระบายความร้อนใต้ ฮีตซิงค์ หากใช้ Thermal Paste คุณภาพไม่ดีด้วย ยิ่งทำให้การระบายความร้อนมีจำกัด
- เสียงดัง: แม้จะเงียบกว่าบางทางเลือก ระบบควบคุมความร้อนด้วยลมยังสามารถสร้างเสียงเงียบ
เคล็ดลับสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของการควบคุมความร้อนด้วยลม:
- ให้เหมืองมีการระบายอากาศที่เหมาะสมในพื้นที่ขุดขุดของคุณ
- ทำความสะอาดตัวกรองฝุ่นและพัดลมอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาการไหลของอากาศ
- ทำความสะอาดบอร์ดขุด เป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นที่เกาะบริเวณฮีตซิงค์ หากต้องการเริ่มทำด้วหยตัวเองสามารถหาอ่านได้ที่ วิธีการดูแลเครื่องขุดบิทคอยน์ด้วยตัวเอง
- ควรมีอะไหล่เป็นพัดลมตรงรุ่นเพื่อใช้เปลี่ยนเมื่อพัดลมเสีย เนื่องจากพัดลมสำหรับ ASIC มีมากมายในตลาด การเลือกยี่ห้อเดียวกัน Amp เท่ากัน RPM เท่ากัน อาจไม่ได้แปลว่าสามารถใช้ทดแทนกันได้ เนื่องจากมีทั้งของแท้ ของเทียบ ของผลิตจากคนละโรงงาน แนะนำให้ซื้อจำนวนน้อยๆมาเปลี่ยนดูก่อน หากใช้งานได้ จึงซื้อสต็อกเก็บไว้เป็นอะไหล่ต่อไป
เนื่องจากการระบายความร้อนด้วยลม หรือเรียกว่า การระบายความร้อนด้วยการระบายอากาศ เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุดในไทยในปัจจุบัน จึงขออํิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของการระบายอากาศในเหมืองที่มีใช้กันอยู่หลายประเภท โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรา
ระบายอากาศด้วยอากาศอุณหภูมิห้อง VS ระบบระบายอากาศด้วยความเย็น
วิธีการระบายอากาศที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ใช้หลักการเดียวกันในด้านลมร้อนขาออก คือใช้การระบายหรือดูดออกด้วยพัดลม จะแตกต่างกันที่ลมเย็นขาเข้าเครื่องยกตัวอย่างประเภทที่นิยมใช้ทั่วไปคือ
- ระบายอากาศร้อนออกอย่างเดียว ด้านลมเข้าเป็นฟิลเตอร์หรือมุ้งลวด ใช้ลมดูดออกช่วยดึงลมเย็นเข้าห้องขุด
- ระบายอากาศร้อนออก ดูดอากาศอุณหภูมิห้องเข้าในห้องด้วยพัดลมเป่า
- ระบายอาการร้อนออก และเติมอากาศเย็นเข้า ลดอุณหภูมิด้วย Cooling Pad หรือ แผ่นรังผึ้ง
- ระบายอาการร้อนออก และเติมอากาศเย็นเข้า ใช้ระบบลดความเย็๋นด้วย Chiller หรือเครื่องปรับอากาศ
อุณหภูมิห้อง VS คูลลิ่งแพ็ดรังผึ้ง VS แอร์หรือชิลเลอร์
เอาลมเย็นจากไหนดี?
เรามาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภทกัน ใช้หลักการอะไรในการตัดสินใจเลือกใช้ที่เหมืองของเรา
หรือหากเลือกแล้ว ต้องบำรุงรักษาหรือเข้าใจข้อจำกัดอย่างไร
1.1 การระบายอากาศอุณหภูมิห้อง:
อาจหมายถึงข้อ 1 หรือ 2 คือจะมีพัดลมช่วยเป่าลมอุณหภูมิห้องเข้าหรือไม่ก็ได้
ข้อดี:
- ความง่าย: การระบายอากาศอุณหภูมิห้องเป็นที่รู้จักในเรื่องความง่ายในการออกแบบและความง่ายในการดำเนินการ ไม่ต้องการอุปกรณ์ที่ซับซ้อนใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายเหมืองขุดบิทคอยน์ รวมถึงเหมืองขุดขนาดเล็กและขนาดกลาง
- ความคุ้มค่า: ในทางด้านการลงทุนเริ่มต้น การระบายอากาศอุณหภูมิห้องที่มีความคุ้มค่ามากกว่าวิธีอื่นๆที่ต้องทำความเย็นก่อน เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ขุดบิทคอยน์ที่มีงบประมาณจำกัด หรือเพิ่งเริ่มขุดบิทคอยน์
- ประสิทธิภาพในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น: ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นโดยธรรมชาติหรือในฤดูหนาว การระบายอากาศอุณหภูมิห้องอาจมีประสิทธิภาพมากเพียงพอ โดยไม่ต้องเสียเงินลงทุนอะไรเพิ่มเติม
- การบำรุงรักษา: ความต้องการการบำรุงรักษาสำหรับการระบายอากาศอุณหภูมิห้องไม่มีความซับซ้อน การล้างตัวกรองและพัดลมเป็นประจำ ตรวจเช็คสายพานของพัดลมที่ดูดลมเข้าและออกแค่นั้นก็เพียงพอต่อการบำรุงรักษาแล้ว
ข้อเสีย:
- ประสิทธิภาพที่จำกัดในสภาวะอากาศร้อน: การระบายอากาศอุณหภูมิห้องมีข้อจำกัดในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนหรือในช่วงฤดูร้อนเมื่ออุณหภูมิภายนอกสูงเกิน 35 องศา
- การใช้พลังงานมากขึ้น: ในสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น การระบายอากาศอุณหภูมิห้องอาจต้องการความเร็วพัดลมที่สูงขึ้นและการใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการระบายความเย็นที่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
- ความผันผวนตามฤดูกาล: ประสิทธิภาพของขึ้นอยู่กับอุณหภูมิตามฤดูกาล ต้องมีการปรับแต่งต่างๆหากอุณหภูมิมีความผันผวน
1.2 การระบายอากาศด้วยคูลลิ่งแพ็ดรังผึ้ง
ใช้เพื่อลดอุณหภูมิลมขาเข้าเครื่องขุด โดยใช้น้ำไหลลงมาผ่านแผ่นรังผึ้ง น้ำจะลดอุณหภูมิลมที่ผ่านแผ่นรังผึ้งก่อนนำลมที่ลดอุณหภูมิแล้วนั้นไปเป่าเข้าเครื่องขุดบิทคอยน์เพื่อลดอุณหภูมิเครื่องต่อไป
ข้อดี:
- ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น: การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผึ้งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องสำหรับประสิทธิภาพการระบายความเย็นสูง แม้ในสภาวะอากาศร้อน มันสามารถรักษาอุณหภูมิในเหมืองขุดบิทคอยน์ได้อย่างเหมาะสม น้ำสามารถลดอุณหภูมิได้มากถึง 5-10 องศา ลดความเสี่ยงจากความร้อนสะสมช่วงหน้าร้อน
- ประหยัดพลังงาน: เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศเช่นแอร์หรือชิลเลอร์ทั่วไป การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผี้งใช้พลังงานน้อยกว่ามาก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานระยะยาวลดลง
- ดีต่อสิ่งแวดล้อม: การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผึ้งซึ้งทำจากกระดาษเป็นที่นิยมในมุมการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน เนื่องจากไม่ได้มีการใช้น้ำยาเคมีหรือสารสังเคราะห์ในการใช้งานใดๆ มีเพียงน้ำ และแผ่นรังผี้่งกระดาษแข็ง เมื่อต้องการเปลี่ยนแผ่นรังผี้งทิ้ง กระดาษแข็งก็สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติอีกด้วย
- ประโยชน์ระยะยาว: แม้ค่าลงทุนเริ่มต้นอาจสูงขึ้นกว่าการใช้เพียงพัดลม แต่การระบายอากาศด้วยแผ่นรังผึ้งก็สามารถประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพในระยะยาวในด้านค่าไฟได้ดี
ข้อเสีย:
- ค่าลงทุนเริ่มต้นสูงกว่าแบบลมอย่างเดียว : อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงขึ้นเนื่องจากต้องติดตั้งปั๊มน้ำ และทำรางน้ำรวมถึงระบบหมุนเวียนน้ำ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอาจมีค่าน้ำ และค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์เช่น เปลี่ยนปั๊ม เปลี่ยนแผ่นรังผึ้งต่างๆเข้ามาเพิ่ม
- ความซับซ้อนในการบำรุงรักษา : การบำรุงรักษาระบบแผ่นรังผึ้งอาจซับซ้อนมากกว่าการระบายอากาศแบบปกติ ต้องใส่ใจกับคุณภาพของน้ำ การทำงานของปั๊ม และการบำรุงรักษาแผ่นรังผึ้งเป็นระยะ รวมถึงการทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นตามรอบอายุการใช้งาน
- ความชื้นที่เกิดขึ้น : หากมีการติดตั้งแผ่นรังผึ้งด้านลมเข้า ต้องระมัดระวังความชื้นที่จะเข้าไปกับลมเย็น ที่สามารถทำให้เครื่องขุดสัมผัสโดนความชื้นได้ ควรเว้นระยะจากผนังด้านที่มีแผ่นรังผึ้งให้ห่างจากทางดูดของเครื่องขุดมากพอ เช่น 3-4เมตร
- ความเชียวชาญในการใช้งาน : การปรับจูนปริมาณน้ำมีผลต่อการกระเด็นของน้ำออกจากแผ่นหรือการปรับปต่งเพื่อให้แผ่นรังผึ้งมีน้ำไหลสม่ำเสมอ อาจต้องใช้ความสามารถช่างหน้าเหมืองที่สามารถปรับและเข้าใจหลักการนี้ได้
1.3 การระบายอากาศด้วยระบบปรับอากาศ
ใช้เพื่อลดอุณหภูมิลมขาเข้าเครื่องขุด โดนใช้แอร์ หรือชิลเลอร์ ในการจ่ายลมเย็นเข้าด้านขาเข้าของเหมือง
ข้อดี:
- ประสิทธิภาพสูงสุด: ในประสิทธิภาพการผลิตความเย็น แน่นอนว่าเครื่องปรับอากาศหรือ Chiller ในอุตสาหกรรมสามารถทความเย็นได้สูงที่สุด ส่งผลให้เครื่องขุดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจาก เครื่องสามารถลดความร้อนได้ไว
- ความเย็นสม่ำเสมอ: เมื่อเทียบกับการระบายอากาศด้วยแผ่นรังผี้งระบบนี้สามารถกำหนดความสม่ำเสมอของอุณหภูมิได้ดีกว่ามากทำให้ได้ความสม่ำเสมอของแรงขุดไม่ว่าสภาวะภายนอกจะเป็นอย่างไร
- ความชื้นต่ำและสม่ำเสมอ: เทียบกับการใช้แผ่นรังผึ้ง ระบบแอร์หรือ Chiller เป็นระบบที่อากาศเย็นไม่สัมผัสกับน้ำที่ลดอุณหภูมิโดยตรง ถึงแม้จะมีความชื้นอยู่บ้าง แต่ถือว่าน้อยกวง่าระบบรังผึ้งหรือ ระบบอุณหภูมิห้องที่อยู่ใกล้ชายฝั่งอย่างมาก และความชื้นที่เกิดขึ้น ค่อนข้างสม่ำเสมอและควบคุมได้
ข้อเสีย:
- ค่าลงทุนเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงสุด : ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงเนื่องจากต้องลงทุนในอุปกรณ์และระบบท่อต่างๆที่ต่อเข้ามา อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงที่สุด เนื่องจากต้องใช้ไฟฟ้าในการรันเครื่องปรับอากาศหรือ Chiller ด้วย
- ความซับซ้อนในการบำรุงรักษา : ต้องมีการบำรุงรักษาเหมือนบำรุงรักษาแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศอุตสาหกรรมเป็นประจำ
ตรวจสอบและควบคุมระบบระบายอากาศอย่างไร
การตรวจสอบและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในเหมืองขุดบิทคอยน์ ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
- เครื่องมือตรวจสอบอุณหภูมิ: ใช้เครื่องมือตรวจสอบอุณหภูมิและเซ็นเซอร์เพื่อติดตามอุณหภูมิในพื้นที่ต่าง ๆ ของเหมืองขุดบิทคอยน์ อาจใช้ Thermal Image Camera หรือวัดปริมาณการกินไฟที่มากขึ้น หากพบความร้อนสูงขึ้น
- การตรวจสอบระยะไกล: ติดตั้งระบบตรวจสอบระยะไกลเพื่อเข้าถึงข้อมูลอุณหภูมิแบบเรียลไทม์และทำการปรับแต่งตามค่าอุณหภูมิที่จำเป็นทางไกล
- การควบคุมอุณหภูมิโดยตั้งค่าล่วงหน้า: การใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติที่ปรับความเร็วของพัดลมและวิธีการระบายความร้อนตามค่าอุณหภูมิที่กำหนดล่วงหน้าหากทราบอยู่แล้วว่าฤดูกาลเป็นอย่างไร
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ข้อควรระวัง และสิ่งสำคัญในการออกแบบการระบายความร้อนด้วยลมของเหมืองขุดบิทคอยน์
เพื่อให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่ควรคำนีงมีดังนี้
- พื้นที่ไม่เพียงพอ: การไม่ออกแบบพื้นที่ให้เพียงพออาจสร้างข้อจำกัดในการไหลของอากาศและทำให้เกิดความร้อน หรือปัญหาด้านความชื้นโดยเครื่องขุดโดยตรงเนื่องจากการวางชิดแผ่นรังผึ้งเกินไปเป็นต้น
- การไม่คำนึงถึงการจัดการกับฝุ่น: การละเลยการทำความสะอาด และเกิดการสะสมของฝุ่นในเหมืองขุดสามารถทำให้ระบบระบายอากาศติดขัดและทำให้เกิดปัญหาของเครื่องขุดบิทคอยน์ได้ ระบบลมจะเย็นอย่างไรแต่หากเครื่องมีฝุ่นจำนวนมากขวางทางไหลเวียนของลม อาจไม่มีประโยชน์ในการลงทุน ควรติดตั้งมุ้งลวดกันแมลง/ฟิลเตอร์กันฝุ่นต่างๆ เพื่อใช้ในการกรองฝุ่น รวมทำถึงทำแผนในการทำความสะอาดอย่างน้อยสัปผดาห์ละ 1 ครั้ง
- การวางพัดลมไม่เหมาะสม: การวางพัดลมให้ไม่เหมาะสมอาจทำให้มีการไหลของอากาศที่ไม่เหมาะสมและสร้างจุดอับของการไหลเวียนอากาศได้
- การแยกส่วนของลมเย็นและลมร้อนชัดเจน : อาจติดตั้งแผ่นกั้นลมเพื่อเป็นการแยกลมร้อนและลมเย็นออกจากกันอย่างชัดเจน เืพ่อให้ลมร้อนไม่สะท้อนกลับมาบริเวณลมเย็นและย้อนกลับเข้าเครื่องขุด หากมีการนำเครื่องออกจากชั้นวาง และมีช่องห่าง ควรหากแผ่นกั้นลมมาตั้งกันเพื่อให้ไม่ลมร้อนและลมเย็นปนกัน
- คำนึงถึงปริมาณลมที่จ่ายเข้าและปริมาณลมที่ดูดออกให้สัมพันธ์กัน : ลมเข้าควรมีปริมาณมากกว่าลมออกเพื่อให้ด้านลมเย็นมีแรงดันเป็นบวก ลดปัญหาฝุ่นเข้าในพื้นที่ได้อย่างมาก
การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ คุณสามารถรักษาการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ขุดของคุณ
2. การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบไม่สัมผัสกับบอร์ด (Water Cooling / Hydro Cooling)
จุดเริ่มต้นของระบบลดความร้อนด้วยน้ำในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ไม่ได้เริ่มจากในอุตสาหกรรมการขุดบิทคอยน์ แต่เริ่มต้นในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่ต้องการลดความร้อนจากคอมพิวเตอร์ ที่ทำงานหนักและเกิดความร้อนสะสมมากจนใช้แค่พัดลมระบายอากาศไม่เพียงพอ
การระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือที่รู้จักกันในนามของ การระบายความร้อนด้วยของเหลว (Hydro Cooling หรือ Liquid Cooling) ถูกใช้ในโลกของอิเล็กทรอนิกส์มาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว จุดกำเนิดของมันแพร่หลายในคนทั่วไปช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อถูกนำมาใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น คอมพิวเตอร์เมนเฟรมและซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ การระบายความร้อนด้วยของเหลวนี้ใช้สารทำความเย็น หรือของเหลวอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท เพื่อระบายความร้อนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรักษาอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสม
เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยของเหลวได้รับการพัฒนาและพบการประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ แพร่หลายขึ้นในวงการอื่นม รวมถึงสถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ข้อมูล หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และคอมพิวเตอร์เกมมิ่งความสามารถสูงต่างๆ การระบายความร้อนด้วยของเหลวหรือระบบไฮโดรได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ในช่วงหลังสุดได้แพร่หลายไปยัง อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์ที่มีการประมวลผลที่สูงและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมากอย่างอุตสาหกรรมการขุดบิทคอยน์ การระบายความร้อนด้วยน้ำเป็นวิธีการควบคุมความร้อนที่อยู่ในขั้นสูงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยน้ำที่ใช้หล่อเย็นหรือระบายความร้อน จะไม่สัมผัสกับตัวบอร์ดขุดโดยตรง แต่เป็นระระบายความร้อนผ่านท่อภายในฮีตซิงค์ เรียกระบบนี้อีกนัยหนึ่งได้ว่าแบบ Indirect Cooling
แนวคิดการระบายความร้อนด้วยน้ำ:
ระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำใช้การถอดพัดลมระบายอากาศของเครื่องขุดบิทคอยน์ทั้งด้านลมเข้า และด้านระบาย ออก และติดตั้งฮีตซิงค์ หรือแผ่นระบายความร้อนที่มีท่อน้ำหรือสารเคมีที่ด้านในเข้าไปแทน ฮีตซิงค์ที่ทำหน้าที่นำความร้อนออกจากบอร์ดจะถ่ายเทความร้อนเข้ากับน้ำแทนลม แฮชบอร์ดจะถ่ายเทความร้อนผ่านthermal paste ให้กับฮ๊ตซิงค์ และน้ำเย็นที่ไหลเวียนอยู่ภายในดูดความร้อนออกจากฮีตซิงค์ จากนั้นน้ำที่ร้อนจะไปผ่านระบบคายความร้อนต่างๆ ที่ทำให้น้ำเย็น (แล้วแต่เลือกใช้ เช่น ระบบ Cooling Tower ต่างๆ) ก่อนที่จะวนกลับมาที่ฮีตซิงค์อีกครั้งเพื่อทำซ้ำกระบวนการระบายความร้อนจากแฮชบอร์ดอีกครั้ง
ประโยชน์ของการระบายความร้อนด้วยน้ำ:
- ประสิทธิภาพการควบคุมความร้อนที่เพิ่มขึ้น: การควบคุมความร้อนด้วยน้ำมีประสิทธิภาพมากในการลดความร้อน ทำให้เหมาะสมสำหรับเครื่องขุดร้อนที่มีกำลังการทำงานสูง
- ระดับเสียงที่ลดลง: ระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำมักมีระดับเสียงน้อยกว่าการระบายความร้อนด้วยลมเนื่องจากไม่มีการติดตั้งพัดลมความเร็วสูง
- ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น: อุณหภูมิการทำงานที่ต่ำกว่าสามารถทำให้ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ขุดดีขึ้น ประหยัดพลังงานขึ้น
ข้อเสียของการระบายความร้อนด้วยน้ำ:
- การติดตั้งที่ซับซ้อน: การติดตั้งระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำอาจจะซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการควบคุมความร้อนด้วยลม อาจจำเป็นต้องใช้สถานที่หรือพื้นที่เฉพาะ
*ปัจจุบันมีผู้ผลิตตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขุดบิทคอยน์และระบายความร้อนด้วยน้ำออกมาบ้าง แต่เจ้าที่โดดเด่นที่สุดในตลาดก็ยังคงเป็นเจ้าใหญ่อย่าง Bitmain ที่ผลิตตู้สำเร็จรูป สำหรับผู้ที่อยากลดต้นทุนการขุดด้วยการใช้น้ำเป็นชุดหล่อเย็น ทีม Cryptodrilling ได้เขียนรีวิวสรุปอ่านง่ายๆ ถึงหลักการทำงาน รวมถึงจุดเด่น จุดด้อยของตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวไว้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวสรุปตู้คอนเทนเนอร์สำหรับhydro รุ่นAntminer HK3 - ความยากในการบำรุงรักษา: ระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำต้องการการบำรุงรักษาเป็นคราว รวมถึงการเปลี่ยนสารเคมี
โครงสร้างพื้นฐาน
- อุปกรณ์ระบายความร้อนชุดที่ติดกับเครื่องขุด (ASIC Cooling Equipment):
ประกอบด้วยฮีตซิงค์ หรือครีบระบายความร้อนที่มีท่อไหลเวียนของเหลวอยู่ภายใน และ น้ำยาติดฮีตซิงค์ หรือ Thermal Paste
โดยความร้อนจะถูกนำผ่าน Thermal Paste และถ่ายมาที่ฮีตซิงค์อลูมิเนียม หลังจากนั้งของเหลวที่วิ่งภายในฮีตซิงค์จะนำความร้อนออกจากฮีตซิงค์ เพื่อทำให้ Hashboard ของเครื่องขุดเย็นลง สำหรับท่านที่นึกอุปกรณ์ภายในเครื่องขุดASIC ไม่ออก สามารถเข้าไปดูภาพประกอบและคำอธิบายได้ที่ ส่วนประกอบของเครื่องขุดASIC - อุปกรณ์ระบายความร้อนชุดที่ใช้ระบายความร้อนออกจากของเหลว (Liquid Cooling Equipment):
ประกอบด้วยพัดลม, ครีบแลกเปลี่ยนความร้อน, หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการระบายความร้อนออกจากของเหลว เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้ทำหน้าที่ระบายความร้อนออกจากของเหลวที่ได้รับความร้อนมาจากเครื่องขุดบิทคอยน์แล้ว ชุดระบายความร้อนนี้จะระบายความร้อนออกจากของเหลว ก่อนนำของเหลวนี้กลับไปใช้ใหม่อีกครั้ง - ท่อและข้อต่อต่างๆ (Piping and Connectors): ระบบไฮโดรคูลลิ่งมีท่อและส่วนเชื่อมต่อที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ระบายความร้อนกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการระบายความร้อน ท่อนี้จะนำของเหลวที่ระบายความร้อนไปยังชุดระบายความร้อน เพื่อนำความร้อนออกจากของเหลวและนำกลับเข้ามาที่เครื่องขุดใหม่อีกครั้ง
- น้ำ หรือน้ำยาหล่อเย็น (Coolant): น้ำหรือน้ำยาหล่อเย็น เป็นของเหลวที่ใช้ในระบบไฮโดรคูลลิ่ง เพื่อรับความร้อนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และนำความร้อนนั้นออกจากระบบ น้ำยาหล่อเย็นมักจะมีคุณสมบัติในการรับความร้อนที่ดีกว่าน้ำทั่วไป และสามารถไหลกลับในระบบได้ ไม่มีความหนืดที่มากจนเกินไป
- ปั๊ม (Pumps): ปั๊มใช้ในการนำสารหล่อเย็นไหลผ่านระบบ ปั๊มมักจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้น้ำยาหล่อเย็นหรือน้ำไหลผ่านอุปกรณ์ระบายความร้อนและกลับมาในระบบ
ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายทำระบบ Hydro Cooling ออกมาจำหน่าย ตามรุ่นหรือยี่ห้อของเครื่องขุด เราได้เขียนรีวิวสำหรับระบบนี้ไว้สำหรับระบบในตู้คอนเทนเนอร์จาก BITMAIN เรื่อง รีวิวเจาะลึก Antspace HK3 ระบบไฮโดรสำเร็จรูป สามารถเข้าไปอ่านและดูรูปเพิ่มเติมได้
ประเภทของระบบระบายความร้อนแบบไฮโดร
- Open-loop Liquid Cooling System (ระบบไฮโดรคูลลิ่งแบบวงจรเปิด): ระบบนี้ใช้น้ำหรือน้ำยาหล่อเย็นหรือของเหลวในการระบายความร้อนจากอุปกรณ์ และนำของเหลวเหล่านี้ไประบายความร้อนที่ภายนอกด้วยท่อ อาจมีการระบายความร้อนออกผ่านการฉีดผ่านหัวน็อตเซิล หรือผ่านcooling tower โดยน้ำยาจะสัมผัสกับอากาศภายนอกระบบเพื่อทำการแลกเปลี่ยนความร้อนออก จึงเรียนว่าเป็นระบบวงจรเปิด และน้ำหรือสารหล่อเย็นนี้จะถูกนำกลับใช้ซ้ำในระบบเรื่อยๆ ระบบนี้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนเร็ว แต่ต้องมีการบำรุงรักษาค่อนข้างสูงเพื่อตรวจสอบระดับน้ำและความสะอาดของระบบ
- Closed-loop Liquid Cooling System (ระบบไฮโดรคูลลิ่งแบบวงจรปิด): ระบบนี้มีลักษณะคล้ายกับระบบไฮโดรคูลลิ่งแบบวงจรเปิด แต่มีหนึ่งความแตกต่างสำคัญคือของเหลวไม่สัมผัสกับอากาศ เมื่อน้ำหรือสารหล่อเย็นทำหน้าที่ระบายความร้อนจากอุปกรณ์แล้ว มันจะถูกนำออกมาเพื่อวนในท่อที่สามารถแลกเปลี่ยนความร้อนได้ อาจต้องใช้ระยะทางหรือจำนวนท่อมากเพื่อให้ลดอุณหภูมิได้มากพอ ก่อนนำของเหลว วนกลับไปที่ระบบเพื่อระบายความร้อนจากเครื่องขุดบิทคอยน์อีกครั้ง
เคล็ดลับสำหรับการเลือกและติดตั้งระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำ:
- เลือกระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำที่เข้ากันได้กับเครื่องขุดบิทคอยน์ของคุณ
- ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่ว หรือมีแผนสำรองหากเกิดการรั่วของน้ำในระบบ
- สังเกตระดับน้ำและประสิทธิภาพของระบบเป็นตารางชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่น ระดับของเหลวต่ำจนทำให้บอร์ดขุดร้อนจนเกิดความเสียหาย
Air-cooling VS Hydro-cooling Solutions :
เปรียบเทียบระบบระบายความร้อนแบบไฮโดรกับระบบระบายด้วยอากาศทั่วไป
การเปรียบเทียบระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ (Hydro-cooling) กับระบบการระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air-cooling) มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาวะการใช้งานของเครื่องขุดและการจัดการความร้อนที่ต้องการในแต่ละกรณี:
Hydro-cooling (ระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ):
- ประสิทธิภาพในการระบายความร้อน: Hydro-cooling มักมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการระบายความร้อนในกรณีที่เครื่องขุดทำงานในสภาพแวดล้อมที่ความร้อนสูง เช่นในประเทศที่มีอากาศร้อน หรือพท้นที่ที่อากาศร้อน เครื่องขุดจะมีการใช้พลังงานมากและมีความร้อนสูง น้ำมีความสามารถในการลดอุณหภูมิได้มากกว่าอากาศ เรื่องจากค่าความสามารถการแลกเปลี่ยนความร้อนมากกว่าอากาศถึงเกือบ 4 เท่า ยังไม่นับว่าหากเปลี่ยนของเหลวในระบบมาใช้เป็น สารหล่อเย็น ที่ให้การแลกเปลี่ยนความร้อนมหาศาล
- ควบคุมอุณหภูมิ: Hydro-cooling ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำและเสถียรกว่าแบบอากาศ ผ่านการปรับการไหลของน้ำหรือของเหลว และยังสามารถลดโอกาสเกิดจุดอับของการไหลเวียนอากาศ หากมีฝุ่นเกาะที่ฮีตซิงค์หรือเครื่องขุดบิทคอยน์
- เสียงน้อยกว่า: ระบบ Hydro-cooling ไม่จำเป็นต้องติดตั้งพัดลมรอบสูงไว้ที่ตัวเครื่องขุด และระบบพัดลมระบายอากาศสำหรับชุดระบายความร้อนให้ของเหลว มักเป็นพัดลมหมุนรอบต่ำที่เงียบกว่า ทำให้ลดปัญหาเสียงรบกวนได้มาก
Air-cooling (ระบบการระบายความร้อนด้วยอากาศ):
- ง่ายต่อการติดตั้ง: ระบบ Air-cooling มักง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน ไม่ต้องมีระบบน้ำหรือการท่อต่างๆ
- ต้นทุนต่ำกว่า: ระบบ Air-cooling มักมีต้นทุนติดตั้งและดูแลรักษาต่ำกว่า Hydro-cooling และมักไม่ต้องมีการบำรุงรักษาที่ซับซ้อน
- เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป: ระบบ Air-cooling สามารถหาซื้ออุปกรณ์ได้ทั่วไป เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย
- ไม่ต้องมีน้ำหรือค่าใช้จ่ายเรื่องสารหล่อเย็น: ระบบ Air-cooling ไม่ต้องการน้ำหรือสารหล่อเย็นเหมือน Hydro-cooling ที่อาจต้องดูแลและบำรุงรักษาเพิ่มเติม
3. การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม (Immersion Cooling)
การระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่มโดยบอร์ดขุดจะถูกจุ่มลงใน อาจถูกเรียกอีกชื่อได้ว่า Submersion Cooling Method น้ำที่ใช้หล่อเย็นหรือระบายความร้อน น้ำหรือน้ำยาจะสัมผัสกับตัวบอร์ดขุดโดยตรง เรียกระบบนี้อีกนัยหนึ่งได้ว่าแบบ Direct Cooling
หลักการทำงานคล้ายกับระบบ Hydro Cooling โดยมีการนำบอร์ดขุด จุ่มลงในน้ำยาแลกเปลี่ยนความร้อน น้ำยาจะมีการหมุนเวียนโดยไหลผ่านบอรืดนำความร้อนออกจากบอร์ดขุดโดยตรง และน้ำยาจะถูกนำออกไปคายความร้อนออกโดยระบบถ่ายเทความร้อนต่างๆ แล้วแต่เลือกใช้ แล้ววนกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
ประโยชน์ของการระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม:
- การแลกเปลี่ยนความร้อนดีที่สุดในทุกประเภทการระบายความร้อน เนื่องจากน้ำยาที่ใช้เป็นน้ำยาที่สัมผัสกับบอร์ดโดยตรง สามารถนำความร้อนออกจากบอร์ดโดยไม่ผ่านตัวกลางอื่นๆ ทำให้ประสิทธภาพของน้ำยาถูกทำมาใช้ระบายความร้อนได้เต็มที่
- ลดค่าไฟจากการทำงานได้อย่างมาก
- ลดพื้นที่การติดตั้ง เนื่องจาก สามารถนำบอร์ดออกมาจุ่้มลงในถังใส่น้ำยาโดยตรงได้โดนไม่ต้องมีเคส หรือพัดลมระบายอากาศ
- ลดเสียงรบกวน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมรอบสูงเพื่อระบายความร้อน
- การดูแลของเหลวต่ำ เนื่องจากของเหลวที่ใช้ มักไม่ระเหยเร็วเท่าระบบน้ำ Hydro จึงไม่จำเป็นต้องมีการเติมเนื่องจากการระเหยบ่อยเท่า
ข้อเสียของการระบายความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม:
- การดูแลรักษาน้ำยา : ต้องอาศัยความเข้าใจทั้งระบบและตัวน้ำยาเช่น ความหนืดที่สำควรใช้รวมถึงรอบการเปลี่ยนน้ำยาหรือบำรุงรักษาน้ำยา
- ค่าใช้จ่ายของน้ำยาสูงกว่าระบบ Hydro : เนื่องจากเป็นน้ำยาที่ใช้เฉพาะทาง เช่น มีคุณสมบัติไม่นำไฟฟ้า เนื่องจากเป็นการทำงานกับบอร์ดอิเล็คทรอนิกส์ ราคาน้ำยาแลกมา่ด้วยค่าการแลกเปลี่ยนความร้อนที่ดีขึ้น อาจควรคำนึงถึงความคุ้มค่า หากต้องการนำไปใช้กับเครื่องขุดที่ไม่มีประสิทธภาพสูงเท่าที่ควร
- การซ่อมแซมเครื่อง : จำเป็นต้องมีวิธีและลำดับในการเตรียมบอร์ดก่อนนำไปซ่อมเนื่องจากน้ำยาจะเคลือบบอร์ดขุดอยู่ หากส่งซ่อมกับผู้ไม่มีประสบการณ์ด้านimmersion อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับบอร์ดขุดได้ เช่น ทำความสะอาดน้ำยาออกไม่หมด ทำให้ระหว่างการซ่อมมีการช็อตของบอร์ดเกิดขึ้น เป็นต้น
- เงินลงทุนสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการรันเครื่องขุดบิทคอยน์ จำนวนมาก หรือระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากจุดคุ้มทุนใช้เวลานาน สำหรับการลงทุนด้านการขุดระดับกลาง
ประเภทของ Immersion Cooling ในการขุดบิทคอยน์
- การแช่ในสารละลายชนิด Single-Phase Immersion Cooling
การแช่ในสารละลายชนิด Single-Phase Cooling เป็นหนึ่งในวิธีการหลักของ Immersion Cooling ในวิธีการนี้ เครื่องขุดบิทคอยน์จะถูกแช่ในสารละลาย dielectric ในถังหรือตู้ที่ออกแบบมาเฉพาะ สารละลายจะช่วยในการระบายความร้อนออกจากฮาร์ดแวร์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสารละลายนี้จะคงสภาพเป็นของเหลวตลอดการทำงานไม่ว่าจะร้อนหรือเย็น
ข้อดีของการแช่ในสารละลายชนิด Single-phase Immersion Cooling คือความยืดหยุ่น ที่สามารถนำระบบนี้ไปใช้ได้กับเครื่องขุดบิทคอยน์ที่หลากหลาย สา่มารถใช้ได้ทั้ง ASIC miners หรือ GPUs ต่างๆ อีกทั้งราคาน้ำยาและระบบมีต้นทุนในการลงทุนไม่สูงเทียบกับแบบ Two-phase Immersion Cooling *ข้อมูลราคาอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นกับผู้ผลิต
ตัวอย่างสินค้า จาก Shell : มีผลิตภัณฑ์สารละลายสำหรับใช้ในimmersion cooling system ที่ทดสอบแล้วว่าสามารถลดปริมาณการกินไฟฟ้าได้ถึง 40% และสามารถนำไปใช้ในอุตหกรรมหลากหลายเช่น Telecom หรือ cloud provider
- การแช่ในสารละลายชนิด Two-Phase Immersion Cooling
การแช่ในสารละลายชนิด Two-Phase Immersion Cooling ใช้การแปรงเปลี่ยนของสารละลายเป็นแก๊ส ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการระบายความร้อนออกจากฮาร์ดแวร์อย่างมีประสิทธิภาพ การแช่ในสารละลายชนิดนี้มักถูกนำมาใช้ในฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความร้อนสูง เช่น ASIC miners ที่ใช้งานอย่างต่อเนื่อง
ความแตกต่างที่สำคัญของการแช่ในสารละลายชนิด Two-Phase Immersion Cooling คือการใช้งานสารละลายที่มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างของเป็นแก๊ส โดยเคมีที่ใช้ เป็นสารเคมีที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นแก๊สเมื่อได้รับความร้อน การเปลี่ยนสถานะนี้ ทำให้เกิดการดูดซึมความร้อนได้มาก หลังจากนั้นแก๊สจะถูกทำให้เย็นตัวลงและคายความร้อน เปลี่ยนสถานะกลับมาเป็นของเหลววนกลับมาใช้แลกเปลี่ยนความร้อนอีกครั้ง
เคล็ดลับสำหรับการเลือกและติดตั้งระบบการควบคุมความร้อนด้วยน้ำแบบจุ่ม:
- เลือกผู้ผลิตน้ำยาที่สามารถตอบคำถามและตารางการดูแลได้ชัดเจน เช่น ทิ้งสารเคมีอย่างไร ค่าอะไรบ้างที่เป็นตัวแปรที่ควรพิจารณาหากต้องเปลี่ยนน้ำยาเคมี
- คำนวณต้นทุนในการลงทุนในระบบและค่าน้ำยาที่ต้องการเปลี่ยน ก่อนตัดสินใจ
- หาทีมช่าง หรือทีมซ่อมที่สามารถซ่อมบอร์ดหรือเครื่องขุดที่ผ่านการจุ่มน้ำยามาได้เท่านั้น ช่างที่ไม่เคยผ่านการซ่อมบอร์ดจากการใช้งานลักษณะนี้ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อบอร์ดโดยไม่คาดคิด
Immersion-Cooling VS Hydro-Cooling Solutions :
เปรียบเทียบระบบระบายความร้อนแบบจุ่มกับระบบน้ำ
การเปรียบเทียบระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ (Hydro-cooling) กับระบบการระบายความร้อนแบบจุ่ม (Immersion-cooling) มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาวะการใช้งานของเครื่องขุดและการจัดการความร้อนที่ต้องการในแต่ละกรณี:
- การใช้พื้นที่ : ระบบ Hydro-cooling มักใช้พื้นที่มากกว่าเนื่องจากยังต้องมีโครงของเครื่องและมีท่อและวาล์วจำนวนมาก ในขณะที่ระบบ Immersion-cooling สามารถจุ่มเฉพาะบอร์ดขุดลงไปในถังน้ำยาได้เลย ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก
- การซ่อมเครื่องขุด : เครื่องขุดที่ใช้ในระบบ Hydro-cooling จะสามารถซ่อมแซมได้ง่ายและเร็วกว่า เนื่องจากเครื่องขุดที่ใช้กับระบบImmersion ที่จุ่มน้ำยา จะมีของเหลวที่มีลักษณะคล้ายน้ำมันเคลือบอยู่ จำเป็นต้องมีวิธีและลำดับในการเตรียมบอร์ดก่อนนำไปซ่อม หากส่งซ่อมกับผู้ไม่มีประสบการณ์ด้าน immersion อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับบอร์ดขุดได้ เช่น ทำความสะอาดน้ำยาออกไม่หมด ทำให้ระหว่างการซ่อมมีการช็อตของบอร์ดเกิดขึ้น เป็นต้น
- ประสิทธิภาพการระบายความร้อน: Hydro-cooling ใช้น้ำหรือสารหล่อเย็นในการระบายความร้อนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บอร์ดของเครื่องขุดจะระบายความร้อนผ่าน thermal pasteและฮีตซิงค์และส่งความร้อนต่อไปยังน้ำหรือสารหล่อเย็น Hydro-cooling มักมีประสิทธิภาพเป็นรอง Immersion cooling ในการระบายความร้อนเนื่องจากสารหล่อเย็นต้องผ่านตัวกลางสองตัว ก่อนไปถึงน้ำยาทำให้การระบายอาการเป็นไปได้ช้ากว่า
- ความซับซ้อนและการบำรุงรักษาระบบ: ระบบ Hydro-cooling มักมีโครงสร้างที่ซับซ้อนมากกว่าเนื่องจากมีท่อและวาล์วจำนวนมากที่ต้องถูกควบคุมในระบบ และต้องการการบำรุงรักษาที่เพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบระดับสารหล่อเย็นและการบำรุงรักษาสายท่อ
การใช้งานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง:
การดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อนรวมถึงตัวเครื่องขุดบิทคอยน์ไว้ในระดับสูงสุดได้
การบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง:
- รักษาความสะอาดของพัดลม ความสะอาดของน้ำ และกรองฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ
- เฝ้าตรวจเช็คอุณหภูมิและปรับการตั้งค่าการระบบระบายความร้อนอยู่สม่ำเสมอ
- เปลี่ยนพัดลมที่ชำรุดทันทีเพื่อรักษาประสิทธิภาพการระบายความร้อน
เคล็ดลับการบำรุงรักษา:
การบำรุงรักษาที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิดปัญหาเกี่ยวกับความร้อน นี่คือขั้นตอนสรุปง่ายๆ
ขั้นตอนการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์
- ทำความสะอาดตัวกรองฝุ่นและพัดลมอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาการถ่ายเทของอากาศ หรือหากเป็นระบบน้ำ หมั่นทำความสะอาดระบบ หรือมีแผนในการตรวจเช็คความสะอาดของน้ำ/น้ำยาอยู่สม่ำเสมอ เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งสำหรับพัดลม เดือนละ 4-8 ครั้งสำหรับระบบน้ำยา
- ตรวจสอบสายและการเชื่อมต่อตามข้อต่อต่างๆ เพื่อลดปัญหาการรั่วซึมหรือหลุดที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการระบายความร้อน
- ตรวจค่ากลาง ของเซ็นเซอร์ต่างๆอยู่เสมอ (Sensors Calibration) เช่น เซ็นเซอร์ความหนืด ความร้อน หรือ การรั่วซึม เพื่อให้มั่นใจว่าเซ็นเซอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพเชื่อถือค่าต่างๆได้ ลดความเสี่ยงต่อเครื่องขุดบิทคอยน์และระบบที่ใช้งาน
- ติดตามระดับอุณหภูมิและปรับการตั้งค่าการควบคุมความร้อนตามความจำเป็น : ในแต่ละฤดูกาลของประเทศไทย อาจต้องมีการเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆให้เหมาะสม
ปัญหาที่พบบ่อย
- พัดลมเสีย ทำให้เครื่องไม่ทำงาน ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอกภัยพื้นฐานของเครื่องรุ่นใหม่ๆ
- ใบพัดของปั๊มน้ำยาพัง
วิธีแก้ไขปัญหา:
- ควรซื้ออะไหล่พัดลมมาเก็บเป็นสต็อกไว้เพื่อพร้อมเปลี่ยนอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำคัญที่มักเสียก่อนอุปกรณ์อื่น อาจสต็อกไว้ 5-10% ของจำนวนพัดลมทั้งหมดที่มี เช่น มีเครื่องขุด 100 เครื่อง ควรสำรองพัดลมเอาไว้ 5% หรือ 20 ตัว
- หลังจากการถอดทำความสะอาดท่อน้ำยาต่างๆ ระมัดระวังไม่ให้มีลมอยู่ในระบบท่อน้ำ ท่อน้ำยา อาจทำให้ใบพัดของปั๊มเสียหายจากการมีลมอยู่ในระบบ
- หากมีปัญหาเกี่ยวกับความร้อน ตรวจสอบพัดลมและตั้งค่าการควบคุมความร้อนให้ถูกต้อง หากเป็นระบบน้ำควรตรวจสอบความร้อนของน้ำและความร้อนของระบบอยู่ประจำ หรือมีการติดตั้งเซ็นเซอร์เพื่อเตือนความผิดปกติ
- หากมีปัญหาเกี่ยวกับเสียง ตรวจสอบพัดลมและอุปกรณ์ที่เป็นไปได้ที่จะส่งเสียง ควรมีอะไหล่พัดลมรอไว้เพื่อสำหรับใช้เปลี่ยน เพระาปัจจุบันเครื่องขุดมักไม่ให้เครื่องรันต่อหากพัดลมไม่ทำงาน
การดูแลรักษาและบำรุงรักษา Hydro Cooling และ Immersion Cooling
การดูแลรักษาและบำรุงรักษาระบบ Hydro Cooling คือกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้ระบบคงทนและทำงานอย่างเสถียร โดยมีขั้นตอนและปฏิบัติที่สำคัญดังนี้:
- ตรวจสอบระดับและสภาพของสารหล่อเย็น: ทำการตรวจสอบระดับสารหล่อเย็นในระบบเพื่อให้แน่ใจว่ามีสารเพียงพอสำหรับการทำงาน และไม่มีความชำรุดหรือความเสียหาย หรือสภาวะไม่พร้อมใช้งาน เช่น ความหนืดมาก ความสกปรกหรือปนเปื้อน ที่อาจทำให้ระบบมีปัญหา
- การดูแลรักษาสายท่อและส่วนเชื่อมต่อ: ตรวจสอบสายท่อและส่วนเชื่อมต่อเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยรั่วหรือการเสียหาย และเชื่อมต่อทั้งหมดอยู่ในสภาพดี อาจทำการติดตั้งเซ็นเซอร์วัดความชื้นเพิ่มเติม
- ทำความสะอาดระบบ: สารหล่อเย็นอาจมีการสะสมตะกอนหรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ ในระบบ ให้ทำการทำความสะอาดระบบอย่างเป็นระยะเพื่อป้องกันการตีความ
- การเปลี่ยนสารหล่อเย็น: สารหล่อเย็นจะมีอายุการใช้งาน ควรตรวจสอบความสามารถในการทำงานและอายุการใช้งานและเปลี่ยนสารหล่อเย็นตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
- ควบคุมและปรับอุณหภูมิ: ระบบ Hydro Cooling จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ระบบทำงานอย่างเป็นประสิทธิภาพ ควรตรวจสอบการควบคุมและปรับอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ
- การตรวจสอบระบบปั๊ม: ระบบปั๊มใน Hydro Cooling มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนย้ายสารหล่อเย็น ควรตรวจสอบปั๊มและระบบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทำงานอย่างถูกต้อง ห้ามไม่ให้มีอากาศภายในระบบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องใบพัดปั๊มน้ำถูกทำลาย
- เตรียมการและแผนการดำเนินงาน: ควรจัดการเตรียมการและแผนการดำเนินงานสำหรับการบำรุงรักษาและปรับปรุงระบบ Hydro Cooling อย่างเป็นระยะเพื่อให้ระบบคงทนและมีประสิทธิภาพตลอดเวลา
สรุป
ระบบที่มีใช้ปัจจุบัน คือ
- ระบบระบายความร้อนด้วยลม
- ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ Hydro Cooling (น้ำไม่สัมผัสกับบอร์ด)
- ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ Immersion Cooling (แบบจุ่มลงไปในน้ำยา)
การควบคุมความร้อนและเสียงในการขุดบิทคอยน์เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างผลกำไรในการขุดและดำเนินงานอย่างคุ้มค่าและไม่สร้างเสียงรบกวน หากคุณสามารถควบคุมความร้อนให้เหมาะสม คุณจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและประสิทธิภาพของการขุดบิตคอยน์ของคุณจะดีขึ้น
แนะนำการดำเนินการ:
- วางแผนว่าเงินลงทุน และระบบที่ควรเลือกใช้ควรเป็นอย่างไร ให้เข้ากับสถานที่และประเภทเครื่องขุด (หากเปลี่ยนจากระบายความร้อนแบบลมมาเป็นน้ำ โดยเครื่องที่มีอยู่แล้ว ควรเช็คความเข้ากันได้ของอุปกรณ์เนื่องจาก อาจไม่ใช่ทุกรุ่นสามารถเปลี่ยนมาเป็นระบบน้ำได้)
- เลือกอุปกรณ์ที่มีระดับเสียงต่ำและมีประสิทธิภาพสูง
- ติดตามและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้อง
- หากอะไหล่ และระบบความปลอดภัยให้ดี โดยเฉพาะระบบน้ำ
หลังเข้าใจความแตกต่างของระบบระบายความร้อนของเครื่องขุดบิทคอยน์ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการขุดและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำงานได้ โดยใช้กลยุทธ์ที่เรากล่าวถึงในบทความนี้ คุณจะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการควบคุมความร้อนและเสียงในอุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์
เริ่มการขุดไปกับ Cryptodrilling
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักขุดที่มีประสบการณ์หรือเพิ่งเริ่มต้น Cryptodrilling มีบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของคุณ
- พูลขุด hashOS โดยทีม Cryptodrilling: ขุดบิทคอยน์และ LTC/DOGE ด้วยเรทที่ถูกกว่า! พูลเดียวที่มีทีมในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทีม Cryptodrilling พร้อมดูแล คลิ้กที่นี่เพื่อสมัครใช้ hashOS หรือหากยังไม่แน่ใจ อ่านบทความ 7 เหตุผลที่ต้องขุดกับ hashOS ได้ที่นี่!
- บริการซ่อมเครื่องขุด ASIC: ยืดอายุอุปกรณ์ขุดเหมืองของคุณด้วยบริการซ่อมแซม ASIC ที่เหมืองใหญ่ในไทยเลือกใช้! ทีมงานของเราจะให้บริการให้เครื่องของคุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณได้ผลตอบแทนสูงสุด อ่านเกี่ยวกับบริการซ่อมของเราเพิ่มเติมได้ที่นี่
- บริการจัดซื้อ ASIC (สั่งขั้นต่ำ 50 เครื่อง): หากคุณกำลังต้องการขยายกำลังการขุดและต้องการซื้อ ASIC เพิ่ม ทีม Cryptodrilling สามารถช่วยจัดซื้อผ่าน Distributor โดยตรง พร้อมดูแลการขนส่งให้ ติดต่อ Line OA เราได้เลย
- บริการโฮสติ้งและการจัดหาพลังงาน (ขั้นต่ำ 1MW เท่านั้น): สำหรับเหมืองขนาดใหญ่ เรามีบริการฝากวางเครื่อง และ/หรือการจัดหาพลังงาน โดยที่เรามีบริการตั้งแต่ Turnkey Solution (เอาเครื่องมาเสียบได้เลย) ไปจนถึงการหาแหล่งพลังงาน การสร้าง Infrastructure จัดซื้อ Container (ปัจจุบันเรามีแหล่งพลังงานในสหรัฐอเมริกาและลาว) สำหรับนักขุดขนาดใหญ่ที่มีความสนใจบริการนี้ สามารถติดเราผ่าน Line OA หรืออีเมลมาได้ที่ business@cryptodrilling.com
ช่องทางการติดต่อ
หากมีความต้องการอื่นๆ สามารถติดต่อเราผ่านทางช่องทางอื่นๆได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ Cryptodrilling พร้อมที่จะดูแลธุรกิจขุดคริปโตของคุณ!
Facebook Page | Facebook Messenger | Line OA | 089-485-0688